รายงานข่าวจากสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ที่อาคารศาสนสถาน ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง จะเสนอพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณ โดยมีสาระสำคัญ ห้ามชุมนุมปิดทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา โรงพยาบาล สถานศึกษา ท่าเรือและท่าอากาศยาน โดยให้แกนนำที่จะจัดการชุมนุมต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนการชุมนุมไม่น้อยกว่า 72 ชั่วโมง หากทำผิดกฏหมายให้อำนาจศาลเร่งตัดสินยุติการชุมนุม และหากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับ จำคุก หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เสนอให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้ทหารสามารถใช้กำลังและอาวุธป้องกันตัวได้ กรณีเกิดเหตุการณ์จลาจล ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหมที่จะออกมาใช้ในการสลายการชุมนุม
กระทรวงแรงงาน เสนอให้คณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณกว่า 388 ล้านบาท เพื่อใช้ในมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานและสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มเสื้อแดง โดยแบ่งเป็นผู้ประกอบการ กว่า 3,000 ราย ผู้ใช้แรงงานที่จดทะเบียนกับประกันสังคม 63,000 ราย และนอกระบบที่หาเช้ากินค่ำอีกส่วนหนึ่ง รวมทั้งหมด 93,000 ราย
กระทรวงคมนาคม เสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาอนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.กู้เงิน เพื่อนำไปชำระหนี้ค่าน้ำมัน ค่าเหมาซ่อมรถโดยสาร พร้อมดอเบี้ย ประจำปีงบประมาณ 2552 กว่า 3,966 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลัง ค้ำประกันเงินกู้และปรับเงินกู้ตามยอดที่ชำระจริง
ด้านกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ICT เตรียมนำผลสรุปของคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงในการแก้สัญญาสัมปทานมือถือและดาวเทียมไทยคมของกลุ่มชินคอร์ปที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ต้องจับตาความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มคนเสื้อแดงหลังจากนายกรัฐมนตรีเสนอโรดแมป 5 แนวทางการสร้างความปรองดอง ซึ่งจะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 14 พ.ย.นี้