ศาลนัด 11 พ.ค.ฟังคำสั่งแกนนำกลุ่ม นปช.ทั้ง 16 รายขอเพิกถอนหมายจับ

ข่าวการเมือง Thursday May 6, 2010 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลอาญานัดฟังคำสั่งกรณีแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) รวม 16 ราย ยื่นคำร้องขอเพิกถอนหมายจับ เนื่องจากเห็นว่าการที่นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงฯ เป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ทั้งนี้ ศาลได้ไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้องเสร็จสิ้นแล้วรวม 4 ปาก คือ นายคารม พลทะกลาง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ร้อง, นายสุวิทย์ ทองนวล ผู้ช่วย ส.ส.(นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย), นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และนายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย

โดยคำร้องสรุปได้ว่า ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 วันที่ 7 พ.ค.53 และคำสั่งที่พิเศษ 1/2553 จัดตั้งศูนย์อำนายการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวน อาศัยอำนาจตาม มาตรา 11( 1) ประกอบมาตรา 12 ของ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุมัติหมายจับผู้ร้องทั้งหมด ถือเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีผู้ยื่นคำร้องและศาลปกครองกลางได้รับวินิจฉัยในประเด็น พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 บังคับใช้ได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ออกตามมาตรา 218 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ซึ่งถูกยกเลิกแล้ว

นอกจากนี้ การที่นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 184 ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตรา พ.ร.ก.เฉพาะกรณีเร่งด่วน แต่ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏว่ามีสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง แม้จะมีประชาชนนับแสนคนออกมาชุมนุมเรียกร้อง แต่ไม่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายอาญาร้ายแรงที่จะนำไปสู่การประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากรัฐบาลยังควบคุมสถานการณ์ได้โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551

อีกทั้งการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงของนายกรัฐมนตรียังไม่ชอบตามคำนิยามคำว่า "สถานการณ์ฉุกเฉิน" ตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่ศาลพิจารณาออกหมายจับผู้ร้องทั้งหมดตามคำร้องพนักงานสอบสวนตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีจึงเป็นการออกหมายจับโดยไม่มีกฎหมายรองรับ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมผู้ร้องจึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับผู้ร้องทั้งหมด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ