นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 พรรคประชาธิปัตย์จะไม่แก้ไขมาตรา 237 เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคตัวเอง ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะนัดหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อว่าพรรคร่วมจะเข้าใจถึงแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างดี
"แนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งมาตรา 237 คงจะไม่แก้ และพรรคร่วมเองก็เข้าใจดี...จะนัดพูดคุยกันสัปดาห์หน้า" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมย้ำว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ตอบรับกับโรดแมพเพื่อการปรองดอง 5 ข้อ รัฐบาลก็จะเดินหน้าทำงานโดยยึดตามแผนทั้ง 5 ข้อต่อไป แต่จะไม่มีการระบุวันยุบสภา และเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายในการขอคืนพื้นที่แยกราชประสงค์ต่อไป ซึ่งรัฐบาลยังหวังว่ากลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงจะตอบรับแผนดังกล่าว และคืนพื้นที่โดยเร็ว ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ขีดเส้นตายว่าผู้ชุมนุมต้องให้คำตอบเมื่อใด
"ถ้าเขาไม่ตอบรับในข้อเสนอ เราก็จะทำตาม 5 ข้อ โดยไม่เกี่ยวกับการยุบสภา ส่วนเรื่องพื้นที่ราชประสงค์ ก็จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายต่อไป...ในชั้นนี้ยังให้โอกาสในการบริหารจัดการ และดูจากพฤติกรรม ถ้ามันชัดว่าเขาไม่เอาก็จบ ขณะนี้เขายังตอบรับอยู่ แต่ยังขี้สงสัย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงคงไม่สามารถตั้งเงื่อนไขขึ้นมาต่อรองกับรัฐบาลได้อีกแล้ว และจากบรรยากาศบ้านเมืองในขณะนี้ ทุกฝ่ายได้ตอบรับโรดแมพการปรองดอง 5 ข้อ ดังนั้นจึงอยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมรับเงื่อนไขนี้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ลดละความพยายามที่จะทำให้บ้านเมืองกลับคืนสู่บรรยากาศที่ดี
ส่วนการหารือกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยวันนี้นั้น ยังมีความเห็นต่างกันเรื่องการยุบสภา ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงเหตุผล ความจำเป็น และเจตนาทั้งหมดให้แกนนำพันธมิตรฯ รับทราบว่าการยุบสภาอยู่บนเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความสงบ ซึ่งคิดว่าแกนนำพันธมิตรฯ คงจะเข้าใจมากขึ้น
พร้อมยืนยันว่า สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองแต่อย่างใด โดยหวังว่าแกนนำพันธมิตรฯ ที่มาในวันนี้ จะไปสื่อสารและทำความเข้าใจกับแกนนำพันธมิตรฯ คนอื่นๆ ต่อไปได้