นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คัดค้านแผนโรดแมพเพื่อการปรองดอง และการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ 14 พ.ย.ว่า คงไม่เป็นไร เพราะนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงกับสาธารณชนชัดเจนแล้วว่าแนวทางที่เสนอนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อให้ประเทศกลับคืนสู่ความสงบสุขเหมือนเดิม ดังนั้นต้องให้เวลาทุกฝ่ายได้ตั้งสติ และช่วยกันคิดช่วยกันให้ความร่วมมือ
ส่วนที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ต้องการให้นายกรัฐมนตรีกำหนดวันยุบสภาให้ชัดเจนนั้น นายสุเทพกล่าวว่า เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้คือ เมื่อยุบสภาแล้วจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน ซึ่งก็อยู่ในช่วงเวลานั้น แต่การที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถระบุวันที่ชัดเจนลงไปเลย เพราะต้องดูเรื่องการจัดทำงบประมาณก่อนว่าจะเสร็จในวันใด
"คนบวกเลขเป็นก็คิดได้ รัฐธรรมนูญกำหนดเอาไว้ว่า เมื่อยุบสภาแล้วจะต้องจัดการเลือกตั้งภายในไม่เกิน 60 วัน อย่างเร็วไม่เกิน 45 วัน มีกรอบระยะเวลาระหว่าง 45-60 วัน...มันก็ต้องดูที่เรื่องของการจัดทำงบประมาณในช่วงนั้น เวลาที่จะจัดทำงบประมาณอาจจะเสร็จในวันนั้นวันนี้" นายสุเทพ กล่าว
ส่วนกรณีที่โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ออกมาระบุว่า กลุ่มเสื้อแดงไม่มีสิทธิจะไปต่อรองกับรัฐบาลได้อีก รวมทั้งยังยืนว่าแม้มีโรดแมพเพื่อความปรองดองแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการขอคืนพื้นที่ราชประสงค์ ซึ่งทำให้กลุ่มเสื้อแดงเกิดความไม่พอใจนั้น นายสุเทพ มองว่า เรื่องนี้ไม่ควรไปตั้งแง่ ต่างคนต่างทำหน้าที่จะดีกว่า
รองนายกรัฐมนตรี ยังเชื่อว่า จะไม่เกิดความโกลาหลวุ่นวายหลังจากที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ออกมาระบุว่าจะมีการจับกุมแกนนำ นปช.ภายในวันที่ 15 พ.ค. เพราะเรื่องนี้จะต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ผู้ที่มีหน้าที่รักษากฎหมายก็จะต้องดำเนินการไปตามพยานและหลักฐานที่มีอยู่