นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หนึ่งในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)แถลงว่า ที่ประชุมนปช.ยังไม่มีข้อยุติในเรื่องการชุมนุม ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวระบุว่าจะยุติชุมนุมในวันที่ 10 พ.ค.เป็นการเสนอของนายขวัญชัย ไพรพนา หนึ่งในแกนนำเท่านั้น และในวันพรุ่งนี้ทางแกนนำฯ จะมีการหารือกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดข้อเรียกร้องที่ชัดเจนต่อไป
"เรื่องวันยุติการชุมนุม ยังไม่ได้มีการกำหนดวันที่แน่นอน แต่จะกำหนดวันชัดเจนหลังเจรากับรัฐบาลลงตัวแล้ว"
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หลังจากที่หารือถึงแนวทางการปรองดองแล้วมีข้อยุติว่า นปช.จะร่วมแนวทางปรองดองกับรัฐบาลหรือองค์กรที่มีความเห็นในการใช้สันติวิธีคลี่คลายปัญหา โดยไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืน ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยจะดำเนินการจนกว่าความขัดแย้งจะได้ข้อยุติด้วยสันติวิธี
"เราจะไม่ถือว่าเป็นชัยชนะของใคร เพราะไม่ประสงค์ที่จะประกาศชัยชนะบนซากศพของประชาชนหรือทหาร แต่เป็นชัยชนะของประเทศไทย"นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การหารือของแกนนำฯ ขณะนี้ได้ข้อยุติในบางเรื่องที่เห็นตรงกันแล้วกับรัฐบาล แต่ยังมีรายละเอียดที่พรุ่งนี้(8 พ.ค.)แกนนำนปช.จะหารือกันต่อ โดยเรื่องที่ได้ข้อสรุปแล้ว เช่น ประเด็นเรื่องสถาบันเบื้องสูงจะไม่นำมากล่าวอ้างในทุกกรณี, การไม่ขอรับนิรโทษกรรม และเรียกร้องให้นำเรื่องการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมควบคู่กันไปกับการดำเนินคดีแกนนำนปช.
และการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งออกมาแสดงท่าทียอมรับผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยยุติความเคลื่อนไหวใดๆ เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวถึงท่าทีของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)กับคนในรัฐบาลที่ยังมีพฤติการณ์ขัดแย้งต่อแนวทางการสร้างความปรองดอง ไม่ว่าจะเป็นการส่ง SMS, ไปรษณีย์บัตร ตัววิ่งทางสถานีโทรทัศน์โจมตี นปช.ซึ่งถือเป็นการทำลายบรรยากาศการสร้างความปรองดอง
"หากรัฐบาลต้องการให้เกิดความปรองดองจริง ก็ขอให้หยุดวิธีการสามานย์ ยิ่งมีบรรยากาศแบบนี้ยิ่งปรองดองได้ยาก" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีไม่ควรจะออกมาระบุว่า หาก นปช.ไม่ตอบรับข้อเรียกร้องก็จะใช้มาตรการด้านกฎหมาย เพราะถือเป็นการข่มขู่ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่มีสิทธิจะกระทำเช่นนั้น และยิ่งทำให้การปรองดองเกิดขึ้นได้ยาก