นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ระบุถึงกรณีกลุ่มนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ไม่ยอมรับการที่นายสุเทพเข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)เช้านี้ แต่ต้องการให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาจากตำรวจกองปราบปรามเท่านั้นว่า เป็นการยื้อเวลาของเสื้อแดงมากกว่า
นายสุเทพ ยืนยันว่า ตนเองไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในการรับทราบข้อกล่าวหา และพร้อมปฎิบัติตามกระบวนการยุติธรรม หากเสื้อแดงไม่รับแผนปรองดอง ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำหน้าที่แก้ไขปัญหาต่อไป
"มองว่าเป็นการยื้อเวลา พยายามหาเหตุไปเรื่อยๆ ผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหากใครรู้สึกว่าไม่ถูกต้องก็พึ่งพากระบวนการยุติธรรมได้ ผมไม่มีเงื่อนไขใดๆ" นายสุเทพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้มีการขีดเส้นตายให้กลุ่มเสื้อแดงว่าจะยุติการชุมนุมเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าขณะนี้คนทั้งประเทศคงรู้สึกว่ากลุ่มเสื้อแดงชุมนุมมาเป็นเวลานนานพอแล้ว วันนี้สิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องหรือแสดงออกมาตามระบอบประชาธิปไตย สังคมได้รับฟังแล้ว กลุ่มเสื้อแดงควรเลิกการชุมนุมได้แล้ว เพราะรัฐบาลเองได้มีการประกาศเจตนารมย์ที่ชัดเจนว่าพร้อมแจะแก้ไขปัญหาของประเทศตามแนวทางปรองดองที่นายกรัฐมนตรีให้ไว้
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจะดำเนินการตามที่เห็นสมควรว่าจะต้องทำ และรัฐบาลพร้อมจะเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย
ทั้งนี้ หลังจากนี้ไปจะพยายามเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลให้ได้ตามปกติ แม้ว่าจะมีความรับผิดชอบที่ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) อยู่ก็ตาม แต่ส่วนการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น คงต้องประเมินสถานการณ์ โดยจะยกเลิกได้ก็ต่อเมื่อเหตุการณ์สงบเรียบร้อยแล้ว
นายสุเทพ กล่าวถึงบรรยากาศการรับประทานอาหารค่ำกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลค่ำวานนี้ว่า พรรคร่วมฯ ทุกพรรคยังให้การสนับสนุนตามแนวทางการปรองดองของนายกรัฐมนตรี และไม่ได้ต่อรองเหรือเรียกร้องใดๆ รวมทั้งไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องการนิรโทษกรรมนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ
นอกจากนี้ วานนี้ได้มีการรายงานสถานการณ์ในปัจจุบันให้ทางพรรคร่วมฯ ได้รับทราบถึงแนวทางในการปฎิบัติงานที่ชัดเจนของรัฐบาล ซึ่งในวันนี้คาดว่านายกรัฐมนตรีจะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย