นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เดินทางเข้าไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)เพื่อรับทราบการร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีที่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ขอคืนพื้นที่ถนนราชดำเนินเมื่อวันที่ 10 เม.ย.มาร้องทุกข์ไว้ ซึ่งดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว
วานนี้แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศว่า นปช.จะยุติการชุมนุมทันทีที่นายสุเทพ เข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีสั่งฆ่าประชาชนในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.ที่ถนนราชดำเนิน โดย น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. กล่าวว่า หากนายสุเทพ มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในตอนเช้า กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะสลายการชุมนุมในช่วงเย็น
อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้ นพ.เหวง กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ DSI ว่า ไม่ถือว่าเป็นไปตามเงื่อนไขของนปช. เนื่องจากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นลูกน้องของนายสุเทพ และยังเป็นกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งอาจจะมีความผิดด้วยเช่นเดียวกัน ที่ประชุมแกนนำนปช.เห็นตรงกันว่านายสุเทพ ต้องไปมอบตัวที่ตำรวจกองปราบเท่านั้น จึงจะมีการยุติการชุมนุม
ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้โอนสำนวนคดีการกล่าวโทษนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาให้ DSI แล้ว ดังนั้นจึงมีความชอบธรรมที่นายสุเทพ จะเข้าพบพนักงานสอบสวนโดยไม่ต้องรอให้มีหมายเรียก เนื่องจากคดีนี้ได้มีการดำเนินการแล้วโดยกองบังคับการกองปราบปราม และสถานีตำรวจนครบาล
พร้อมมองว่า การเข้าพบพนักงานสอบสวนของนายสุเทพ จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพราะเป็นการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยตรง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเมื่อถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ นอกจากนี้ยังเป็นการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของทางแกนนำนปช. ซึ่งในขั้นตอนนี้จะยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายสุเทพ
ส่วนกรณีที่นปช.อ้างว่าไม่มั่นใจใน DSI เพราะตนเป็นหนึ่งในกรรมการศอฉ.นั้น มองว่าพล.ต.อ.ปทีบ ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ก็เป็นกรรมการศอฉ. คดีทั้งหมดที่เกี่ยวพันกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่ว่าร้องทุกข์กล่าวโทษที่ใด สำนวนจะถูกส่งมาที่ DSI เพราะคณะกรรมการคดีพิเศษได้มีมติให้ DSI รับเป็นคดีพิเศษแล้ว