นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติให้การสนับสนุนตามแผนปรองดอง 5 ข้อของนายกรัฐมนตรีที่จะเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วม แต่หากแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ยังไม่ยุติการชุมนุม อาจถือได้ว่าไม่ได้เป็นการปฏิบัติตามแนวทางการสร้างความปรองดอง นายกรัฐมนตรีก็อาจจะพิจารณาเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป
"ที่ประชุม ครม. ยืนยันที่จะเดินตามแผนการปรองดอง ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนก็สนับสนุนให้เดินหน้าตามแผนปรองดอง"นายปณิธาน กล่าว
นายปณิธาน กล่าวว่า หากทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงยืดเยื้อที่จะมีการชุมนุมต่อไปนั้น อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่นายกฯ มีความจำเป็นต้องมีการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป ทั้งนี้นายกฯ คงจะต้องมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่งและจะสื่อสารกับประชาชนให้รับทราบถึงแนวทาง
สำหรับเหตุผลที่จะพิจารณาก็คือ หากมีการกำหนดวันเลือกตั้ง แต่ ส.ส.ไม่สามารถลงพื้นที่ได้ในการหาเสียงได้ ก็เป็นเรื่องยากที่การเลือกตั้งจะเกิดขึ้น รวมถึงหากยังไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงฝ่ายค้าน อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีจะหยิบยกมาพิจารณา แต่สิ่งสำคัญในขณะนี้รัฐบาลมีความพร้อมที่จะเดินตามแผนปรองดอง เหลือแต่เพียงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
"ก็ต้องให้เวลาเขาบ้าง แต่ขณะนี้การประกาศชุมนุมอยู่เป็นตัวทอนความสำเร็จในทุก ๆ เรื่อง เช่น วันเลือกตั้งเราก็ต้องดูแนวโน้มในช่วงนี้ แต่อย่างที่ท่าน(นายกฯ) กำหนดไว้ก็ยังเป็นวันที่ 14 พ.ย. แต่ความเป็นจริงก็ต้องดูอีกที"นายปณิธาน กล่าว
ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุม ครม.ได้มีการพูดคุยถึงการเตรียมแผนรองรับหากกลุ่ม นปช.ประกาศยุติการชุมนุม และพร้อมเดินหน้าตามโรดแมพที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้ แต่หากทางผู้ชุมนุมยังคงปักหลักชุมนุมต่อไป ก็จะได้มีการเตรียมแผนรองรับเช่นกัน รวมถึงมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
สำหรับการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นายปณิธาน กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุมและเห็นตรงกันว่าหากสถานการณ์คลี่คลายลงไป พ.ร.ก.ดังกล่าวก็คงไม่มีความจำเป็น แต่ทั้งนี้คงต้องขึ้นกับการประเมินสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยของผู้ชุมนุมในระหว่างการเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา หรือสถานการณ์โดยรอบการชุมนุม