แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)กล่าวภายหลังจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)จะปิดถนนรอบพื้นที่บริเวณราชประสงค์เพื่อกดดันกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่ 6 โมงเย็นวันนี้ว่า หากรัฐบาลต้องการสถานการณ์สงครามก็ไม่เป็นไร คนเสื้อแดงก็จะเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ แม้จะเห็นว่ารัฐบาลควรจะใช้สันติภาพเข้ามาแก้ไขปัญหาจะเหมาะสม
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ไม่มีปัญหา แต่คิดว่ารัฐบาลควรเลือกแนวทางสันติจะเป็นผลดีกว่า เพราะจะไม่ทำให้เกิดความสูญเสีย และโดยส่วนตัวก็พยายามจะทำหน้าที่ให้เกิดสันติภาพให้ได้มากที่สุด แต่หากรัฐบาลต้องการจะใช้กำลังสลายกลุ่มผู้ชุมนุมก็จะต่อสู้แบบสันติวิธีต่อไป
"ถ้าพวกผมยอมง่ายๆ ก็ไม่ออกมาชุมนุม ต้องดูว่ารัฐบาลจะดำเนินการตามมาตรฐานสากลหรือไม่ เรามาในฐานะนักต่อสู้ ไม่ใช่มาเป็นลูกไล่ ที่รัฐประกาศว่าเมื่อนั้นเมื่อนี้ต้องยุติการชุมนุมมันเป็นการข่มขู่ปล้นอำนาจไป แล้วยังมาปล้นเสรีภาพกันอีก"นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังมีเวลากว่าจะถึง 6 โมงเย็น หากรัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมคือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้น คิดว่านายกรัฐมนตรีควรแยกแยะให้ออกว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ
ส่วนข้ออ้างเรื่องการชุมนุมจะส่งผลกระทบการเปิดเทอมใหม่ของโรงเรียนโดยรอบพื้นที่ชุมนุมและใกล้เคียงนั้น ทางกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมจะประสานผู้บริหารโรงเรียน เพื่อกำหนดมาตรการตอไป แต่ก็เชื่อวาเป็นการยกเรื่องนี้มากดดันผู้ชุมนุมมากกว่า ซึ่งคนเสื้อแดงยืนยันว่าหากการชุมนุมยุติไปโดยที่หาผู้รับผิดชอบการเสียชีวิตไม่ได้ ก็จะทำให้การชุมนุมครั้งนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น
"ยืนยันว่าพวกเราที่อยู่ อยู่เพื่อสิ่งนี้ เป็นการนำเรื่องมากดดันผู้ชุมนุมมากว่า"นายณัฐวุฒิ กล่าว