นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า การกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เบี้ยวกระบวนการปรองดองนั้น ไม่เป็นความจริง กระบวนการปรองดองกับวันเลือกตั้งเป็นคนละเรื่อง แม้ว่าจะเกี่ยวเนื่องกัน
กระบวนการปรองดองยังเดินหน้าต่อไม่ว่าผู้ชุมนุมจะตอบรับหรือไม่ เพราะรัฐบาลไม่มีแนวคิดล้มเลิกกระบวนการปรองดอง แต่วันเลือกตั้งอาจยกเลิกไป เพราะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ไม่ตอบสนองเงื่อนไขของรัฐบาล ดังนั้น จุดจบต้องดูกันต่อไปวาทางออกจะเป็นอย่างไร
ส่วนการที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับนปช. เป็นเรื่องที่นายกฯ และนายสุเทพ แสดงละครนั้น ตนยืนยันว่าคนพรรคประชาธิปัตย์ไม่ถนัดเรื่องการแสดงละครตบตาประชาชน และที่บอกว่าการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลและนปช.เป็นเหมือนการดำน้ำใครอึดกว่ากันนั้น ก็คิดว่ากลุ่มนปช.อาจดำน้ำเก่งจนไม่โผล่เลยก็ได้ แต่รัฐบาลไม่ได้แข่งขัน มีแต่หาทางออกให้บ้านเมือง
"การชุมนุมของนปช. ได้ทำลายความรู้สึกของสังคมมามาก เมื่อรัฐบาลประกาศแผนปรองดอง และแกนนำนปช.ก็ประกาศจะเข้าร่วม สังคมจึงคาดหวังว่าการชุมนุมจะยุติเหมือนสงกรานต์เลือดปี 52 คือผู้นำออกมามอบตัว และคนเดินทางกลับบ้าน แต่ครั้งนี้ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่มีการสูญเสีย"
ดังนั้น อยากให้นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกลุ่มนปช. นำแกนนำทั้งหมดออกมามอบตัวเหมือนกับปี 52 แต่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.จะฉวยโอกาสชุลมุนหลบหนีไปและใช้เอกสิทธิทางสภาคุ้มครอง ดังนั้น ขอเตือนว่าอย่าหนีอีก เพราะเอกสิทธิ์ที่จะใช้คุ้มครองนายจตุพรนั้น วันที่ 21 พ.ค.ก็จะปิดสมัยประชุม นายจตุพรก็จะไม่ได้เอกสิทธิ์คุ้มครองอีก
นอกจากนี้ ยังกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสังคมกำลังกดดันให้รัฐบาลต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้รัฐบาลต้องดำเนินการและอาจมีคนไม่พอใจผสมโรงเข้ามาด้วยก็ได้