(เพิ่มเติม) ศอฉ.เสนอรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพิ่มในพื้นที่ 15 จังหวัด

ข่าวการเมือง Thursday May 13, 2010 19:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)เสนอแนะให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพิ่มเติมในพื้นที่ 15 จังหวัด พร้อมทั้งปิดถนนเพิ่ม 2 เส้นทาง และกำหนดเขตห้ามบินโดยรอบพื้นที่ชุมนุมแยกราชประสงค์ เตรียมการวางเป้าหมายตัดไฟฟ้า ก่อนดำเนินการพร้อมกับตัดน้ำ-โทรศัพท์ แต่ยังไม่ได้ตั้งเวลาขอคืนพื้นที่ รอให้การปฏิบัติเป็นตัวนำ ขณะที่ยืนยันเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธจริงเป็นปืน M16 และปืนทราโว ไม่มีระเบิดหรืออาร์พีจี แม้จะมีข่าวผู้ก่อการร้ายในกลุ่มผู้ชุมนุมซุกอาวุธร้ายแรง

15 จังหวัดดังกล่าว ได้แก่ ชลบุรี, สมุทรปราการ, นนทบุรี, ปทุมธานี, อยุธยา, ขอนแก่น, อุดรธานี, ชับภูมิ, นครราชสีมา, ศรีสะเกษ, เชียงใหม่, เชียงราย, น่าน, ลำปาง และ นครสวรรค์

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า ศอฉ.ประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ต่างจังหวัดมีความเชื่อมโยงกับส่วนกลาง ซึ่งตามขั้นตอนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจประกาศใช้ พ.ร.ก.ได้ทันที แล้วค่อยไปแจ้งคณะรัฐมนตรีให้รับรองทีหลัง โดยการประกาศ พ.ร.ก.ครั้งนี้ จะมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 2 และ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ดูแลพื้นที่ในส่วนภูมิภาค ทำงานประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด

ศอฉ.ยังประกาศปิดพื้นที่เพื่อกดดันผู้ชุมนุมเพิ่มเติมอีก 2 เส้นทาง เริ่มจากแยกปทุมวัน-แยกเจริญผล และ แยกประตูน้ำ-แยกมักกะสัน และผู้บัญชาการทหารอากาศ เสนอให้ศอฉ.ประกาศเขตห้ามบินรอบแยกราชประสงค์ 3.6 ตารางกิโลเมตร และความสูงไม่เกิน 6 พันฟุตและแม้จะเป็นเครื่องบินของทางการราชการ ก็จะต้องมีการขออนุญาตจากกองทัพอากาศก่อนทุกครั้ง คำสั่งดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมีการนำเครื่องบินเล็กของผู้ชุมนุมบางส่วนขึ้นบินเพื่อตรวจการณ์รอบพื้นที่

นอกจากนั้น ศอฉ.อยู่ระหว่างการกำหนดพื้นที่บริเวณที่จะมีการตัดกระแสไฟฟ้าให้มีความชัดเจน ขณะที่ปฏิบัติการส่วนอื่น ๆ ทั้งการตัดน้ำประปา ตัดโทรศัพท์ พร้อมดำเนินการอยู่แล้ว หากการตัดกระแสไฟฟ้ามีความชัดเจนเมื่อใดก็จะมีการชี้แจงให้ประชาชนรับทราบก่อนจะดำเนินการต่อไป

พ.อ.สรรเสริญ ยังได้กล่าวย้ำถึงการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการกับผู้ชุมนุม วันนี้เน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่จะไม่มีการใช้อาวุธร้ายแรงอย่าง เอ็ม79, ลูกระเบิดขว้าง หรือ อาร์พีจี คงมีเพียงการอาวุธปืนเอ็ม 16 และปืนทราโว ทั้งเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและพลแม่นปืนเพื่อระวังป้องกัน คุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติการ โดยจะเริ่มจากวิธีการยิงขู่ขึ้นฟ้า ยิงเป้าหมายบุคคลที่มีอาวุธร้ายแรงที่อาจจะสามารถทำร้ายเจ้าหน้าที่หรือประชาชนเมื่อเห็นตัว และ ยิงเพื่อคุ้มครองชีวิตตัวเองในกรณีที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายเข้ามาประชิดตัว

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นบทเรียนที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ชุมนุมเข้ามาประชิดตัวได้ จึงจำเป็นต้องเว้นระยะ 30-40 หลา และจำเป็นต้องใช้อาวุธจริง โดยเฉพาะปืนลูกซอง โดยเจตนาไม่ได้มุ่งทำร้ายชีวิต แต่ต้องการหยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเน้นย้ำกฎการใช้กำลังจากเบาไปหาหนัก

สำหรับการนำรถหุ้มเกราะมาใช้ปิดเส้นเพื่อกดดันผู้ชุมนุมนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มีการปรับปรุงรูปแบบของรถหุ้มเกราะ โดยอาจมีการนำกระสอบทรายใส่ไว้ในรถเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ เนื่องจาก ศอฉ.มีข้อมูลว่ากลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมีอาวุธสงครามร้ายแรง เช่น อาร์พีจี

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ศอฉ.ยังไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาที่จะขอคืนพื้นที่ โดยการปฏิบัติการทุกครั้งจะมีการประเมินสถานการณ์และมีการแจ้งให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะปล่อยใหห้การปฏิบัติการเป็นตัวนำ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่าในเวลาประมาณ 20.00 น.วันนี้ ศอฉ.จะแถลงผ่านทีวีพูล เพื่อชี้แจงมาตรการต่าง ๆ ต่อประชาชน

ขณะที่มีรายงานว่าไฟฟ้าถนน ณ จุดชุมนุมแยกราชประสงค์ได้ดับลงแล้ว โดยแกนนำกลุ่มนปช.ยืนยันว่าจะไม่ออกจากแยกราชประสงค์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ