ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) แถลงปัดเกี่ยวข้องเหตุลอบยิงเสธ.แดง ยืนยันไม่มีแนวคิดเด็ดหัว พร้อมเดินหน้ามาตรการกดดันผู้ชุมนุมเต็มรูปแบบ ขยับตีกรอบเข้มงวด พุ่งเป้าจุดสำคัญแยกวิทยุ ยอมรับอาจต้องใช้กำลังเข้สลายการชุมนุมหากจำเป็น
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงยืนยันว่าการลอบยิงพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง คืนวานนี้ไม่ได้เกิดจาก ศอฉ.แต่ก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะหาตัวผู้กระทำในครั้งนี้ และยอมรับว่า สังคมสามารถตั้งข้อสังเกตุได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นฝีมือของกองทัพ แต่ทั้งนี้ไม่อยากให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ศอฉ.ในช่วงเช้าวันนี้ยังไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกันเกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิถีกระสุนหรืออาวุธที่คนร้ายใช้ยิง เพราะต้องการให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ที่เกียวข้องที่จะเป็นผู้สืบสวนสอบสวนต่อไป
"ไม่เคยมีแนวคิดอย่างนี้ เจ้าหน้าที่ที่อนุสรณ์สถานก็เคยโดนมาแล้ว ส่วนมือที่มองไม่เห็นเป็นเรื่องยากในการดำเนินการ แต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็จะพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่" โฆษก ศอฉ. กล่าว
โฆษก ศอฉ. กล่าวอีกว่า ในวันนี้ ศอฉ.ได้มีการเริ่มปฏิบัติการบริเวณแยกวิทยุ ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายหลายครั้งตั้งแต่เมื่อคืนนี้ต่อเนื่องถึงช่วยเช้า โดยเจ้าหน้าที่จะนำกองกำลังที่ปิดล้อมในสวนลุมไนท์ฯ เพื่อกดดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ โดยยอมรับว่าหากมีความจำเป็นถึงขั้นสลายการชุมนุมก็ต้องทำ
และหากกลุ่มผู้ชุมนุมออกมานอกแนวที่ทางศอฉ. ตีกรอบล้อมเอาไว้ ศอฉ.ก็จะยอมไม่ได้ที่จะให้กลุ่มผู้ชุมนุมมาตั้งด่านซ้อนหรือมาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนการปะทะกันเมื่อคืนวานนี้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ออกจากด่านในแนวป้องกันของตัวเองเลย แต่ทางผู้ชุมนุมพยายามเข้ามากดดันการปฏิงานของเจ้าหน้าที่
"จากการประเมินการตั้งด่านเมื่อคืนนี้ยังอยู่ในขั้นควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัดและกทม. ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่พยายามหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธตลอดเวลา"พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้กำชับในการประชุมศอฉ.เช้านี้ โดยได้ระบุถึงแนวทางในการปฎิบัติตามพ.ร.ก.ในพื้นที่ ต่างจังหวัดให้มีความระมัดระวังในการปฏิบัติการ ขณะที่แนวทางปฎิบัติการในกทม. ทางเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินมาตรการในการตั้งด่านปิดล้อมไปเรื่อยๆ และจะมีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา และในพื้นที่ภูมิภาคจะใช้พ.ร.ก.เป็นการป้องกัน ไม่ให้มีการนำมวลชนเข้ามาสร้างความวุ่นวายในพื้นที่กรุงเทพ
สำหรับยอดผู้ชุมนุมจากที่ได้มีการประเมินอยู่ที่ราว 1 หมื่นคน