พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีสั่งให้ทหารใช้กำลังปฏิบัติการกดดันกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ โดยเสนอให้ใช้แนวทางสันติวิธีเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความสูญเสียของชีวิตของประชาชนเพิ่มเติมอีก
"เป็นที่ประจักษ์ว่ารัฐบาลได้สั่งให้ใช้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ พร้อมอาวุธสงครามร้ายแรง พร้อมพลซุ่มยิง ใช้ความรุนแรงทำการสลายการชุมนุมของประชาชนอย่างไร้เมตตาธรรม โดยในเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายในคืนวันที่ 13 พฤษภาคม 2553 และจะมีการสูญเสียเพิ่มเติมอีกในวันนี้ ทั้งๆที่รัฐบาลประกาศแผนปรองดอง และสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียได้ง่ายนิดเดียว โดยการปฏิบัติการตามข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่ให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปรับทราบข้อกล่าวหาและมอบตัวคดีที่เกี่ยวข้องกับการสังหารประชาชนในวันที่ 10 เมษายน 2553" พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุในแถลงการณ์
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการในขณะนี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นการกระทำผิดทางอาญา ที่นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และผู้สั่งการทุกคนต้องรับผิดชอบ และเพื่อป้องกันไม่ให้การสุญเสียเกิดขึ้นมากกว่านี้จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรยุติการใช้กำลังทหารและตำรวจ พร้อมอาวุธสงครามร้ายแรงสลายการชุมนุม, ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, เปิดการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อหาทางออกโดยสันติวิธี และร่วมเจรจาหาแนวทางปรองดองกับทุกฝ่าย เพื่อให้ประเทศชาติมีประชาธิปไตย และความยุติธรรม และประเทศเดินหน้าต่อไปได้
"ขณะนี้ประเทศยังพอมีทางออก และนายกรัฐมนตรีสามารถป้องกันการสูญเสียเฉพาะหน้า และนำชาติพ้นภัย ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวนายกรัฐบนตรีว่าจะเลือกแนวทางใด ระหว่างสันติวิธีกับการใช้ความรุนแรง ระหว่างตำแหน่งทางการเมืองกับ ชีวิตคนไทยผู้บริสุทธิ์ ผมหวังว่านายกรัฐมนตรีจะเลือกสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเคยประกาศไว้ว่า ประชาชนต้องมาก่อน แต่ในขณะนี้สิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากเห็น คือ ประชาชนต้องตายก่อน" พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ