นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้แนวทางในการคลี่คลายวิกฤตที่แกนนำนปช.ยืนยันในการเข้าร่วมเจรจาเพื่อยุติการยิงนั้น เกรงว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเชื่อมโยงกับยุทธวิธีของผู้ที่เคลื่อนไหวทางการเมือง 3 เรื่องคือ 1.ยุทธวิธีการเคลื่อนกลุ่มมวลชน และกองกำลังการจรจาจลเพื่อเข้าปะทะกับแนวทหารนอกพื้นที่ชุมนุม 2.ยุทธวิธีการจู่โจม โดยใช้ระเบิดจากระยะไกลเพื่อเพิ่มความรุนแรงจากระเบิดเอ็ม 79 เป็นระเบิดอาร์พีจี และ 3.ยุทธวิธีการใช้มือปืนสไนเปอร์ของฝ่ายกองกำลังซุ่มยิงประชาชนจนเสียชีวิต
ล่าสุดได้มีการจับกุมกองกำลังที่พยายามจะหลบหนีที่บริเวณโรงแรมอินทรา และชุมชนบ่อนไก่ ซึ่งทางพรรคมองว่าแผนทั้ง 3 วิธีดังกล่าวเป็นไปตามการวางแผนที่มีการปลุกระดมมวลชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าทหารฆ่าประชาชน ดังนั้น ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ประโยชน์ใดๆ จากความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่ผู้ที่ได้รับประโยชน์คือผู้ก่อการร้ายที่สร้างสถานการณ์โดยการยิงประชาชนและโยนความผิดให้ทหาร เพื่อหวังให้เกิดการนองเลือดในแผ่นดินไทย
อย่างไรก็ตาม พรรคไม่ต้องการให้มีความสูญเสียเกิดขึ้น แต่ถ้าหากไม่ต้องการให้ประชาชนถูกฆ่ามากขึ้น ทางแกนนำต้องหาทางให้กองกำลังก่อการร้ายที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะที่เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองหยุดการกระทำที่ก่อความรุนแรงทั้งต่อทางเจ้าหน้าที่และประชาชน
ขณะเดียวกันได้มีการเรียกร้องให้สถาบันสูงสุดของชาติกลับเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมืองถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้มีการระบุก่อนหน้านี้ทั้งในเรื่องขอพระบรมราชานุญาติในการเข้าเฝ้า ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อความรุนแรงที่พรรคมองว่าเป็นเรื่องที่คนไทยรับไม่ได้ ที่จะเห็นการยกระดับการเคลื่อนไหวทางการเมืองจากการชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐบาลมาสู่การก่อการร้าย เพื่อกดดันต่อสถาบันสูงสุดของชาติ ดังนั้น พรรคได้มีการดำเนินการในหลายส่วนเพื่อที่จะคลี่คลายสถานการณ์ ขณะเดียวกันก็ต้องดำเนินวิถีทาง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงในการก่อการร้ายลุกลามบานปลายไปสู่ภาวะสงครามกลางเมือง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ทางพรรคมองว่าวิกฤตดังกล่าวจะยุติลงได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้สั่งการในการปฏิเสธกระบวนการปรองดอง และเหตุการณ์ได้นำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น เพื่อหวังอำนาจต่อรองโดยใช้ความสูญเสียของประชาชนเป็นเครื่องมือ
ดังนั้น พรรคหวังว่าสถานการณ์ในขณะนี้ทำได้ยากขึ้น และหวังว่าประชาชนจะใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ในการตั้งสติ และตั้งมั่นในการถอยจากการเผชิญหน้าและเชื่อว่ายุทธศาสตร์ในการเคลื่อนความขัดแย้งทางการเมืองไปสู่ความรุนแรงระหว่างคนไทยด้วยกันจะสามารถหยุดยั้งด้วยความร่วมมือจากคนไทยทุกฝ่าย
ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลกดดันให้นายกฯ ลาออก นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีกระบวนการที่จะบีบให้นายกฯ ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากการหารือร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลครั้งสุดท้ายและทุกพรรคได้แสดงความห่วงใยและความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองตามที่ประชาชนได้ให้โอกาสและตั้งหวามหวังไว้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถประคับประคองให้ผ่านวิกฤตไปได้