พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล ในฐานะรองโฆษกตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุมดำเนินคดีกลุ่มผูผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ล่าสุดส่งฟ้องดำเนินคดีอีก 11 คน ศาลสั่งลงโทษจำคุกทุกคดี โดยไม่รอลงอาญา
ยกตัวอย่าง คดีที่สน.ปทุมวัน มีผู้กระทำความผิดในข้อหาการใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะในพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ศาลสั่งจำคุกตาม พ.ร.ก.เป็นเวลา 2 ปี แต่ทางจำเลยรับสารภาพจึงลดโทษเหลือ 1 ปี โดยศาลให้เหตุผลว่าบ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย จำเลยทั้งสองไม่ร่วมกันช่วยเหลือแต่กระทำกระหน่ำซ้ำเติม จึงไม่รอลงอาญา
ส่วนคดีอื่น ๆ ศาลได้สั่งจำคุกตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 1 ปี ส่วนใหญ่จับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณปั๊มเอสโซ่ในซอยรางน้ำ รวมถึงบริเวณแยกราชเทวี มีการจับกุมได้และตรวจค้นพบอาวุธไม่ว่าจะเป็นหนังสะติ๊ก ลูกยาง ลูกแก้ว มีดาบด้ามยาว และอุปกรณ์พร้อมก่อเหตุ ซึ่งทุกคดีศาลไม่รอลงอาญาทั้งหมด
นอกจากนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงได้เรียกตัวแทนตำรวจนครบาล และระดับรองผู้บังคับการ ให้ช่วยดูแลสถานการณ์ในเขตพื้นที่บ่อนไก่ ดินแดง และท่าเรือคลองเตย โดยได้กำชับการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการตามแผนงานที่ได้วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการขอคืนพื้นที่ ในส่วนของผู้ชุมนุมที่มีการชุมนุมกระจัดกระจายโดยรอบ โดยให้เน้นการปฏิบัติตามหลักของกฎหมาย แต่ให้มีการเฉียบขาดในการปฎิบัติการ