(เพิ่มเติม) ศอฉ.ยืนยันยังไม่จำเป็นใช้เคอร์ฟิว จับกุมมือขวา"เสธ.แดง"ขยายผล

ข่าวการเมือง Tuesday May 18, 2010 13:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่กทม.เพราะเชื่อว่าประชาชนรับทราบถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แล้ว และช่วงเวลากลางคืนประชาชนในพื้นที่เสียงก็ไม่ได้ออกจากเคหะสถาน อีกทั้ง หากมีการประกาศเคอร์ฟิวแล้วไม่มีผลในทางปฏิบัติจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดมากยิ่งขึ้น โดยเรื่องนี้ได้สอบถามจากพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ที่ได้หารือกับผู้บังคับหน่วยกำลังต่างๆ แล้ว

"ผบ.ทบ.ได้สอบถามผู้บังคับหน่วยกำลังต่างๆ ว่ามีความต้องการจะประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่ ซึ่งทุกคนก็ให้คำตอบในทิศทางเดียวกันว่าขณะนี้ยังไม่เหมาะสม เพราะเวลากลางคืนไปแล้ว ประชาชนที่วิตกกังวลต่อสถานการณ์ก็ไม่ได้ออกจากบ้านอยู่แล้ว และหากการประกาศเคอร์ฟิวไม่มีผลในทางปฏิบัติ จะมีข้อจำกัดมากขึ้น" โฆษก ศอฉ.ระบุ

พร้อมกันนี้ ศอฉ.ยังได้กำชับและทบทวนแนวการปฏิบัติการใช้อาวุธกระสุนจริงของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร โดยเน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่สามารถใช้อาวุธได้ในกรณีที่เห็นผู้ที่ถืออาวุธร้ายแรงอยู่ในมือเท่านั้น พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้รักษาระยะห่างการตั้งด่านระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับแนวของทหารและตำรวจประมาณ 350-400 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้มีการยิงอาวุธ M79 เข้ามาในแนวพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ เนื่องจาก M79 มีระยะหวังผล 150-350 เมตร

ส่วนการบีบวงล้อมในพื้นที่ Red Zone แม้ว่ายังไม่ได้มีการกระชับวงล้อมเพิ่มเข้าไปนั้น แต่ ศอฉ.ยังดำเนินมาตรการอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า กรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ได้โทรศัพท์ไปหานายกอร์ปศักดิ์ โดยระบุว่า สามารถสั่งการให้กลุ่มเสื้อแดงที่ออกไปก่อเหตุตามจุดต่างๆ กลับเข้าไปยังพื้นที่ราชประสงค์ได้นั้น เป็นการบ่งบอกว่านายณัฐวุฒิ ถือเป็นผู้ก่อการร้ายตัวใหญ่

"คุณณัฐวุฒิ เป็นแกนนำการชุมนุมในพื้นที่ การที่มาบอกกับสังคมว่าไม่รู้ไม่เห็นการก่อการร้ายเป็นไปไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาเขาสามารถเรียกผู้ปฏิบัติการภายนอกกลับมาในพื้นที่ภายในได้ นี่คือหลักฐานชัดเจนว่าคือผู้ก่อการร้ายตัวใหญ่" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

ในขณะนี้ ศอฉ.ยังไม่ได้มีการประเมินในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีความจำเป็นต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพิ่มเติม เพราะในขณะนี้ยังถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยพื้นที่ต่างจังหวัดมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 17 จังหวัด รวมทั้งหมดราว 2,400 คน โดยพื้นที่ในเขตแหลมฉบัง จ.ชลบุรี มีการเคลื่อนไหวมากที่สุด ราว 1,400 คน

ส่วนเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในขณะนี้ ศอฉ.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลการก่อเหตุในพื้นที่โดยรอบ กทม.รวมถึงการตั้งเวทีย่อยในพื้นที่ต่างๆ รอบกทม. ซึ่งศอฉ.จะพยายามคุมพื้นที่นอกเขต Red Zone ให้นิ่งก่อน และได้คาดโทษผู้ที่ตั้งเวทีปราศรัยย่อยจะถูกออกหมายจับด้วย

ศอฉ.ยังได้สรุปเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 13-17 พ.ค. พบว่ามีกลุ่มผู้ไม่หวังดีใช้อาวุธ M79 ยิงก่อเหตุแล้ว 56 ครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล ในฐานะรองโฆษก บ.ชน. เปิดเผยว่า ตำรวจสามารถจับกุมนายพิเชษฐ์ หรือภูมิกิตติ สุขจินดาทอง อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นการ์ดนปช.และเป็นหัวหน้าการ์ดดูแลพื้นที่ราชประสงค์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 1

การจับกุมบุคคลดังกล่าว เนื่องจากถือว่าเป็นมือขวาของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งทางการได้ติดตามการเคลื่อนไหวมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อการขยายผลการจับกุมผู้กระทำผิดคนอื่นๆ ต่อไปได้

พร้อมกันนี้ ตำรวจยังสามารถจับกุมผู้ที่จำหน่ายยางรถยนต์ โดยยึดยางรถยนต์ของกลางได้ 9,021 เส้น ซึ่งการจับกุมดังกล่าวจะมีส่วนช่วยชะลอการนำยางรถยนต์ไปเผาก่อความวุ่นวายได้ในระดับหนึ่ง และตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อขยายผลต่อไป พร้อมกับขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนที่สามารถบันทึกภาพในการกระทำผิดของกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย โดยขอให้ส่งข้อมูลหลักฐานไปยังตำรวจนครบาล เพื่อนำไปขยายผลการจับกุมต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ