นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยเครือข่ายสันติวิธีกว่า 10 องค์กร แถลงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง
"เครือข่ายฯขอร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันหยุดการฆ่า และให้ถนอมชีวิต" นายโคทม กล่าว
ทั้งนี้ เครือข่ายมีข้อเสนอ 4 ข้อ ได้แก่ ขอให้แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ประกาศให้ผู้สนับสนุนที่อยู่รอบนอกไปรวมตัวกันห่างจากจุดที่ตั้งทหารมากกว่า 300 เมตร เช่น ผู้ชุมนุมในรอบพื้นที่ปิดกั้นไปรวมกันที่ราชประสงค์ ผู้ชุมนุมที่บ่อนไก่ไปรวมตัวกันที่คลองเตย ผู้ชุมนุมที่ดินแดงไปรวมตัวกันที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น และผู้ชุมนุมที่สามย่านถอยไปรวมตัวเลยแนวถนนบรรทัดทอง เป็นต้น ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารให้อยู่แต่ในฐานที่ตั้ง ไม่รุกคืบกระชับพื้นที่เพิ่มกดดันผู้ชุมนุม
ขอให้ทางแกนนำ นปช. และฝ่ายรัฐบาลเริ่มเจรจาบนพื้นฐานเดิม 5 ข้อโดยด่วน และกำหนดวันยุบสภา และวันเลือกตั้งวันที่ 14 พฤศจิกายน จากนั้นทุกฝ่ายเดินเข้าหากระบวนการยุติธรรมโดยมีมาตรฐานเสมอเหมือนกัน
พร้อมทั้งควรนำไปสู่ข้อตกลงโดยเร็วภายใน 48 ชั่วโมง ไม่ว่าจะมีคนกลางเจรจาหรือไม่ เพื่อรักษาชีวิตประชาชนและยุติความสูญเสียที่เกิดขึ้นโดยไม่อาจประมาณค่าได้
นายสมชาย หอมลออ มูลนิธิสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา กล่าวว่า องค์กรสิทธิมนุษยชนภาคประชาชนเห็นด้วยกับข้อเสนอยุติความรุนแรง พร้อมเสนอแนวทางช่วยเหลือผู้ชุมนุมกรณีที่ห่วงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยพร้อมให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกรณีผู้ที่ถูกยิงถูกจับกุม โดยจะพยายามระดมจัดหาทนายความโดยประสานกับองค์กรอื่น ๆ
และพร้อมจะดำเนินการตรวจสอบกระบวนการยุติธรรมความเป็นสองมาตรฐานหรือลำเอียงหรือไม่ โดยเบื้องต้นไม่เห็นด้วยกรณีจับกุมโดย พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วไม่ให้พบญาติหรือทนาย รวมทั้งไปกักตัวในสถานที่ที่ไม่ระบุ
และเรียกร้องให้มีคนกลางมาร่วมตรวจสอบสถานการณ์ เพื่อความโปร่งใส