พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)กล่าวว่า ศอฉ.ได้ตัดสินใจประกาศเคอร์ฟิวเพื่อห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานในยามวิกาลเพิ่มขึ้นอีก 3 วัน ตั้งแต่ 20-22 พ.ค.นี้ โดยปรับกรอบเวลาเป็น 21.00-05.00 น.เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวก
ศอฉ.ยอมรับว่าขณะนี้พื้นที่รอบแยกราชประสงค์ชั้นใน และบริเวณบ่อนไก่ ยังถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยง เพราะยังมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ ซึ่งหากเหตุการณ์เมื่อคืนยังมีความพยายามสร้างสถานการณ์ทั้งเผาสถานที่ราชการและสถานที่เอกชน รวมถึงสำนักงานสื่อต่าง ๆ และสาขาธนาคาร รวม 39 จุด และจากปฏิบัติการเมื่อวานนี้ยึดอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งยึดได้จากบริเวณโดยรอบสวนลุมพินีขณะที่เจ้าหน้าที่กระชับวงล้อม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บางพื้นที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เนื่องจากมีกลุ่มก่อการร้ายคอยซุ่มยิงเจ้าหน้าที่อยู่ โดยทางพล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงบริเวณห้างเซ็นทรัลเวิลด์ถูกยิงจากชายชุดดำ แต่สามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 4-5 คน
ศอฉ.ได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 112 กองร้อยในการดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุทั่วทั้ง กทม.และในวันนี้จะดำเนินการเข้าตรวจสอบรายละเอียดในพื้นที่โดยรอบแยกราชประสงค์ ตั้งแต่แยกแพลินจิต แยกสารสิน แยกประตูน้ำ จนถึงพารากอน รวมถึงวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะอำนวยความสะดวกในการให้ประชาชนที่ยังตกค้างในพื้นที่ราว 5 พันคนเดินทางกลับบ้าน โดยจะทำทะเบียนบันทึกรายละเอียดก่อนเดินทางกลับบ้าน
นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นหลายจุดในพื้นที่กทม.หลังจากแกนนำกล่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ประกาศยุติการชุมนุมแล้วนั้น มีการวางแผนและเตรียมการไว้ก่อนหน้าแล้ว และขณะนี้สถานการณ์ยังไม่สงบลง เนื่องจากพื้นที่บางจุดยังมีกลุ่มผู้ก่อเหตุอยู่
"จากเมื่อวานนี้เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวไม่ได้เป็นอิสระ แต่มีเครือข่ายเป็นระบบ มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะก่อเหตุในธุรกิจประเภทใดบ้าง สถานที่ใดบ้าง และลักษณะการก่อเหตุเป็นอย่างไร...ความเสียหายที่มากมายในขณะนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ได้มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ"นายปณิธาน กล่าว
ในระหว่างแถลงข่าววันนี้ ศอฉ.ได้นำคลิปภาพการปราศรัยของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ที่ปลุกระดมผู้ชุมนุมให้เผาบ้านเอาเมืองหากถูกสลายการชุมนุม และการกล่าวของนายณัฐวุฒิ ที่ประกาศก่อนเข้ามอบตัวว่าให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ถือว่าเป็นการอาศัยช่วงที่ผู้ชุมนุมมีความโกรธแค้นให้ขยายผลในการก่อจลาจลเมื่อวานนี้
วันนี้ ศอฉ.ได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมสถานการณ์หลายจุดไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการและสถานที่สาธารณะต่าง ๆ โดยนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ทางคณะกรรมการเยียวยาประสานงานกับทางนายเกียรติ สิทธีอมร และนางอัญชลี เทพบุตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประสานงานกับภาคเอกชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุจลาจลลอบวางเพลิงตลอดวานนี้
จากช่วงเมื่อวานนี้ต่อเนื่องช่วงเวลากลางคืนยังมีความพยายามก่อเหตุในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นตลอดถนนพระราม 4 คลองเตย ปากซอยไผ่สิงโต และพื้นที่อื่นรอบ กทม.โดยขณะนี้ยอดรวมผู้เสียชีวิตที่ศูนย์เอราวัณรวบรวมจากเหตุการณ์ตั้งแต่ใช้มาตรการเพิ่มความกดดันผู้ชุมนุมเต็มรูปแบบ มีจำนวน 44 ราย บาดเจ็บ 398 ราย
ศอฉ.รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม 6 ราย ซึ่งคุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ ได้รับรายงานในเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชุมนุมที่พยายามออกมาจากวัดเพื่อเดินทางกลับบ้าน แต่ปรากฎว่ามีกลุ่มซุ่มยิงจากตึกสูงและยิงอาวุธสงครามเข้าใส่ หน้าประตูวัด และมีผู้ลากศพกลับเข้าไปในวัด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ เพราะถูกต่อต้านจากกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธ หลังจากเกิดเหตุตั้งแต่ 17.00-18.00 น.เมื่อวานนี้
รัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินทุกวิธีทางที่จะป้องกันชีวิตประชาชนและให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปทำงานแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่ รัฐบาลจะไม่กล่าวหาว่ากลุ่มใดเป็นผู้กระทำ แต่จะให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดพิสูจน์ความจริงให้ประชาชนรับทราบ ส่วนจะมีนักการเมืองหรือกลุ่มบุคคลใดอยู่เบื้องหลังเหตุกาณณืก่อความวุ่นวายเมื่อวานนี้นั้น ศอฉ.ได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบและหาตัวผู้โยงใยอยู่เบื้องหลังต่อไป
นายปณิธาน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม ประกาศตัวเป็นแกนนำนปช.รุ่น 2 ร่วมกับนายจักรภพ เพ็ญแขว่า รัฐบาลขอเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการกระทำใด ๆ ที่กระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศ และยุติการชุมนุมและความพยายามต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ชัดเจนแล้วว่าต่างประเทศได้ประณามการกระทำอย่างนี้ และหลังจากนี้รัฐบาลจะเดินหน้าดำเนินคดีก่อเหตุความวุ่นวายพร้อมไปกับการเดินหน้าแผนปรองดอง 5 ข้อตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีต่อไป
พร้อมทั้งยอมรับว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนสำคัญของนปช.ได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเร่งรัดติดตามจับกุมแกนนำที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป