นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุจลาจลในพื้นที่ทั่วประเทศหลังจากแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ประกาศยุติการชุมนุมเพื่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้ไปรัฐบาลต้องเร่งดำเนินมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยด่วน และอยากฝากถึงรัฐบาลเห้คลียร์พื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของประเทศ, หามาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหาย ทั้งภาคเอกชน ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ที่ถูกเผา รวมไปถึงแรงงาน เช่น การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือเงินช่วยเหลือ และต้องฟื้นความเชื่อมั่นกลับคืนมา โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และที่สำคัญต้องเดินหน้าโรดแมพแผนปรองดอง 5 ข้อต่อไป
"เป็นสิ่งที่คาดเอาไว้แล้ว ว่าจะเป็นรูปแบบเช่นนี้ ภาวนาให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดแต่ก็คาดไม่ถึงว่า เมืองจะถูกเผามากมาย เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ.กล่าวว่า การปรองดองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะว่าการสลายครั้งนี้ทำด้วยความไม่เต็มใจอารมณ์ของคนอาจกลับมาปะทุได้อีก รวมถึงกระบวนการใต้ดินที่ยังมีอยู่ จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจในท้องที่ที่ต้องตรวจตราทำงานอย่างหนัก และอย่าถือว่าเราชนะแล้ว
นายบรรหาร กล่าวถึงกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าวันเลือกตั้ง 14 พ.ย. อาจจะเป็นไปได้ยากว่า อาจเป็นจริง เนื่องจากกำหนดเดิมนั้น ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ต้องใช้เวลาเยียวยาเหตุการณ์ และเตรียมพร้อมสำหรับการลงพื้นที่เลือกตั้งด้วย
"อาทิตย์หน้านี้จะมีการประชุมหารือระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อกำหนดบทบาทและแนวทางต่อไป"