นายวิทยา แก้วภราดรัย ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 วันที่ 26 และวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ จะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 09.00 น. คาดว่าองค์ประชุมน่าจะพร้อมและสามารถเปิดประชุมได้ในเวลา 10.00 น. ซึ่งจะใช้เวลาพิจารณาตั้งแต่เวลา 10.00 น.จนถึง 23.00 น.ประมาณ 13 ชัวโมง และวันที่ 2 จะเริ่มจาก 10.00 น.ถึง 23.00 น.เช่นเดียวกัน โดยใช้เวลาอีก 13 ชั่วโมง รวมเวลาในการอภิปรายทั้งหมดก็จะประมาณ 26 ชั่วโมง
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวต่อว่า สัดส่วนของการอภิปรายนั้น จะได้มอบหมายเลขานุการวิป นำโดยนายวิรัช กัลยาศิริและ นายอัศวิน ได้พูดคุยกับฝ่ายค้านภายในวันอังคารในการจัดสรรเวลา โดยเราจะมอบเวลาให้กับฝ่ายค้านได้มีโอกาสอภิปรายมากกว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และจะกันเวลาส่วนหนึ่งให้กับคณะรัฐมนตรี เป็นผู้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด
"การพิจารณาจะแล้วเสร็จในคืนวันพฤหัส พร้อมๆกับอาจจะมีพระบรมราชโองการกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมวิสามัญต่อไป หลังจากนั้นวิปจะได้มีการหารือว่าในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันนี้ และจะได้รับการคลี่คลายจากรัฐบาลมาเป็นลำดับ พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้ยืนยันในการที่จะจับมือร่วมกันในการที่จะสะสางแก้ไขปัญหา และจะพยายามพาประเทศให้พ้นจากวิฤกตของสถานการณ์ในลักษณะปัจจุบัน" ประธานวิปรัฐบาล กล่าว
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้รัฐบาลจำเป็นจะต้องเยียวยาช่วยเหลือกับผู้ที่ประสบภัยจากการก่อการร้าย การก่อวินาศกรรม การวางเพลิงเผาทรัพย์ การทำร้ายร่างกาย ให้บุคคลเหล่านั้นได้รับการเยียวยาอย่างทั่วถึง เพื่อที่จะให้บุคคลเหล่านั้นได้มีโอกาสที่จะช่วยตัวเองได้ คนที่ตกงานในละแวกปริมณฑลของการกระทบกระทั่งกันตลอดทั้งหมด รัฐบาลควรที่จะช่วยชดเชยแรงงานเหล่านั้น ให้ได้รับค่าตอบแทนในช่วงที่ต้องตกงานจากภาวะวิฤตและก็จะได้รับผลกระทบต่อไปข้างหน้าในระยะเวลาพอสมควร ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ควรจะได้รับการบรรเทาความเสียหายจากภาครัฐบาลอย่างทั่วถึงกัน และที่สำคัญที่สุดเราก็ยังยืนยันว่าจะใช้เวทีสภาเชิญชวนพรรคฝ่ายค้านกลับเข้ามาสู่สภา
"ระยะเวลาที่ผ่านมาฝ่ายค้านได้เปิดแนวรบมากเกินไปทั้งในถนน ทั้งในสภา วันนี้หนทางสภาเป็นหนทางที่แก้ปัญหา และถ้าหนทางสภาสามารถแก้ปัญหาไปได้แล้ว เวลาที่การพูดคุยถึงการยุบสภาก็ไม่จำเป็นต้องพูดคุย ทุกอย่างเดินไปตามระบบได้ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องมากำหนดว่า 3 เดือน 7 เดือนยุบสภา ทุกอย่างจะเป็นไปโดยกลไกของระบบรัฐสภา ถ้ารัฐบาลผู้ถืออำนาจในยังยุบสภาตัดสินใจ ก็เป็นเรื่องฝ่ายบริหารตัดสินใจภายใต้ภาวะการณ์ทางการเมืองที่ฝ่ายบริหารตัดสินใจ แต่ถ้าสภามีปัญหาในเรื่องการผ่านกฎหมาย คนที่เป็นรัฐบาลก็พิจารณาได้ 2 ทาง 1. ยุบสภา 2.ลาออก เพราะหนทางของการที่จะเดินไปข้างหน้า สภาก็ต้องเรียกร้องความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการที่จะทำงานร่วมกันในสภามากกว่าที่ผ่านมา"
"4 เดือนของสมัยประชุมนี้เราเกือบไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายค้านเลย ตั้งแต่การแสดงตนที่จะเข้าประชุมสภา วันนี้วิปฝ่ายรัฐบาลก็ขอเรียกร้องไปยังฝ่ายค้านทุกคนว่ากลับมาสภา เพราะทุกคนรับการเลือกตั้งมาให้มาแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองตามแนวทางรัฐสภา" นายวิทยา กล่าว