พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีคนร้ายลอบวางเพลิง ทั้งในสาวนที่เป็นสถานที่ราชการและเอกชน การเผาทรัพย์ของตนเอง หรือการตระเตรียมวางเพลิงก็มีโทษหนัก
และกรณีฉวยโอกาสโจรกรรมทรัพย์สินในกรณีเกิดอัคคีภัยจะมีโทษหนักกว่าการลักทรัพย์ทั่วไป
"หากบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ กฎหมายก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ บ้านเมืองอยู่ไม่ได้" พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
โดยบทลงโทษของผ้วางเพลิงสถานที่ราชการหรือโรงมหรสพมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต แม้แต่การเผายางรถยนต์ที่เป็นการวางเพลิงทรัพย์ของตนเองก็มีโทษหนักถึงจำคุก 20 ปี แค่ตระเตรียมก่อเหตุก็มีโทษถึงสองในสาม
ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจมีเวลาจัดการคนร้าย อาชญากรรม อาชญากร ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บช.น.ได้จัดชุดพิเศษเพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นกำลังพลที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี
พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนแจ้งเบาะแส หากรู้ว่าการตระเตรียมการ โดยแจ้ง 191 หรือ สน.ท้องที่ หรือ ศอฉ.
พล.ต.ต. อำนวย กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวแกนนำกลุ่ม นปช.ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายนเรศวรมีความสุขสบายเหมือนไปตากอากาศว่า ทุกคนไม่ได้สุขสบายอย่างที่คิด นอกจากได้แจ้งข้อหาหมิ่นสถาบันแล้ว ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ยังได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้ายด้วย
"วันแรกไปสอบปากคำโดยทันที ห้องควบคุมมีแค่ 10 ห้อง สถานที่คับแคบไม่เพียงพอ ครั้งแรกให้แกนนำฯ อยู่รวมกัน แต่วันนี้ได้นำบุคคลที่มีความผิดมาฟ้องศาล 40 คน และได้แยกควบคุมแล้ว บางคนพอแจ้งข้อหาดูสายตาก็รู้ว่าเป็นกังวล" พล.ต.ต. อำนวย กล่าว