ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต่านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะมีส่วนร่วมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้แน่นอน เพราะถือว่าเป็นส.ส.ที่งานให้กับพรรคมาโดยตลอด และรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงระหว่างการชุมนุม
"คุณจตุพรเขามีหน้าที่ เป็นคนสำคัญ ทำงานให้กับพรรคมาตลอด และอยู่ในเหตุการตั้งแต่ที่ผ่านฟ้ามาจนถึงที่ราชประสงค์ ต้องช่วยกันต้องบอกความจริง" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ส่วนกรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่า ตนมีโอกาสเป็นนายกฯ เพียง 2.75%นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวยอมรับว่า เรื่องนี้ไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลยที่จะทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะสุดท้ายพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็จะร่วมโหวตให้กับรัฐบาล
แต่ถ้ามีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะไม่ทำให้การชุมนุมที่เรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตยต้องมีผู้เสียชีวิตโดยเด็ดขาด และจะไม่ใช้ทหารเข้าไปสลายการชุมนุม และจะไม่ยอมให้พรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมกันหลอกเงินรัฐบาลกว่า 6 พันล้านบาทไปให้พรรคพวกของตัวเองแน่นอน
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่จะเดินหน้าการติดตามจับกุมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับในข้อหาก่อการร้ายว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าเป็นเพียงผู้ที่ถูกกล่าวหา หากในวันนี้ทางทนายไปยื่นเพื่อเพิกถอนคำสั่งไม่เป็นผล ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ต่อได้
สำหรับการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้น ปกติจะมีเพียง 2 กรณีเท่านั้น คือ เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้จำคุก หรือ ต้องมีการนำตัวมาฟ้องร้องต่อศาล แต่ในขณะนี้ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นเพียงผู้ที่ถุกกล่าวหาเท่านั้น และการที่จะระบุว่าเป็นผู้ก่อการร้ายสากลก็ต้องเป็นในลักษณะที่มีคนจากประทเศหนึ่งไปก่อการร้ายอีกประเทศหนึ่ง
พร้อมกันนี้ ยังตั้งข้อสังเกตุว่ารัฐบาลเลือกปฎิบัติในการดำเนินคดี เพราะขณะนี้คดีการกระทำความผิดของแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังไม่มีความคืบหน้า แม้จะถูกตั้งข้อหากเป็นผู้ก่อการร้ายเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังได้ท้าให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โต้วาทีผ่านสื่อเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ชุมนุมว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในขณะนี้มีความจริงใจที่จะปรองดองหรือไม่