นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ระบุว่า ขณะนี้ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังไว้วางใจไม่ได้ ดังนั้น การประกาศเคอร์ฟิวมีเป้าหมายเพื่อลดโอกาสของคนร้ายที่จะมาทำร้ายประชาชน หรือทำให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สิน รวมทั้งชีวิตของประชาชนด้วย เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ได้ประกาศชัดเจนตั้งแต่แรกว่าจะลงไปต่อสู้ใต้ดิน คำพูดลักษณะนี้ถือว่าชัดเจนว่าการดำเนินการลักษณะนี้เสียหายแก่บ้านเมืองแน่นอน จึงต้องติดตามดูเป็นระยะ
ขณะเดียวกันต้องเร่งรัดการดำเนินคดีกับบรรดาผู้ร้ายทั้งหลายที่มีหลักฐานชัดเจน ทั้งออกหมายจับและติดตามจับกุมตัว ซึ่งพยายามให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ร่วมมือกัน เพื่อติดตามจับกุมบุคคลเหล่านี้มาดำเนินคดี หากสามารถจับกุมคนเหล่านี้ได้จำนวนมาก ก็จะเหลือคนร้ายที่เพ่นพ่านอยู่ข้างนอกน้อยลง ประเทศก็จะมีความปลอดภัยมากขึ้น
"ขอยืนยันว่าการคงประกาศเคอร์ฟิวได้คำนึงถึงการใช้ชีวิตของสุจริตชน และการประกอบอาชีพในขณะเดียวกัน เราต้องระมัดระวังไม่ให้โอกาสกับผู้ร้ายได้ใช้เวลาที่ผู้คนนอนหลับแล้วออกมาทำร้ายประเทศชาติ"นายสุเทพ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ศอฉ.เห็นว่าควรประกาศเคอร์ฟิวอีก 7 วัน เมื่อถึงที่ประชุม ครม.นายกรัฐมนตรีและครม.แสดงความคิดเห็นและแสดงความห่วงใยเรื่องการใช้ชีวิตปกติของประชาชนผู้สุจริตว่าจะได้รับผลกระทบมาก จึงได้ขอให้ประกาศเคอร์ฟิวเพียง 4 วันก่อน เมื่อถึงวันศุกร์ที่ 28 พ.ค.ค่อยมาพิจารณาทบทวนกันใหม่ว่าพื้นที่ใดเหตุการณ์สงบและไม่น่ากังวลใจมากนัก ก็อาจจะไม่ประกาศเคอร์ฟิวต่อก็ได้
ส่วนพื้นที่ชุมชนบ่อนไก่ เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปแก้ไขปัญหา ซึ่งเชื่อว่าจะเรียบร้อยในเวลาไม่ช้านี้ เพราะมีประชาชนจำนวนมากให้ความร่วมมือ
นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลจะสร้างความกระจ่างกรณีสาเหตุของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์กระชับพื้นที่ในไม่ช้านี้ และนายกรัฐมนตรีก็บอกแล้วว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกฝ่ายเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบ และรายงานกับประชาชนให้ได้รับทราบ ส่วนองค์ประกอบจะเป็นอย่างไร คิดว่านายกรัฐมนตรีคงจะเปิดเผยและชี้แจงเอง เพราะเมื่อถึงเวลาแล้ว ทุกอย่างจะต้องรายงานให้กับประชาชนได้รับทราบ