“เทพไท"เย้ย"เฉลิม"เป็นหัวหน้าพรรคให้ได้ก่อนค่อยคิดดีเบตกับ"อภิสิทธิ์"

ข่าวการเมือง Thursday May 27, 2010 17:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า การประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ช่วง 2 วันที่ผ่านมาเนื้อหาของการอภิปรายแอบแฝงด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนเองเห็นว่าประสิทธิภาพในการทำงานของพรรคฝ่ายค้านไม่มีเอกภาพ เนื่องจากก่อนหน้านี้ระบุว่าจะให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำทีมอภิปราย เนื่องจากความชำนาญด้านเศรษฐกิจ แต่เมื่อถึงวันอภิปรายกลับให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย มานำทีมอภิปราย แต่สุดท้ายกลับให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้อภิปราย ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชม.

"ร.ต.อ.เฉลิม พยายามทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่าตัวเองสามารถเป็นผู้นำในพรรคได้ ถึงขั้นยอมประกาศกลางสภาว่าตัวเองเป็นสาวกของผู้ก่อการร้าย" นายเทพไท กล่าว

ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม เคยประกาศว่าหากตนเองเป็นนายกฯ จะไม่ยอมให้มีประชาชนตายจากการชุมนุมนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่หากเป็นจริง ตนเองเชื่อว่าคนในพรรคจะตายมากกว่า นอกจากนี้การปฎิเสธข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้ายสากลที่ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่าผู้ก่อการร้ายสากลจะต้องเป็นผู้ที่อยู่อีกประเทศหนึ่งนั้น มีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ซี่งอาศัยอยู่ในประเทศมอนเตรเนโกร และสหรัฐอาหรับเอมิเรตก็สั่งการให้ทำลายประเทศไทยเช่นกัน

นายเทพไท กล่าวต่อว่า กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ท้าดีเบตกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น ตนเองเห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิม ควรไต่เต้าให้ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้ได้เสียก่อน แล้วค่อยมาดีเบตกับนายกฯ และแนะนำว่าหากทำไม่ได้ก็ควรมาดีเบตกับนายศิริโชค โสภา คนสนิทนายกรัฐมนตรี แทนนายกฯ ก็เพียงพอ

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตข้อความปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายว่า เป็นการปฏิเสธแบบขว้างงูไม่พ้นคอ เพราะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากระบุว่าตนเองเป็นเพื่อนกับผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 และเป็นพวกเดียวกันกับเจ้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์จึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องสั่งเผาสถานที่ดังกล่าว ดังนั้นขอถามว่าทำไมจึงไม่มีการเผาโรงแรมเอราวัณด้วย แต่ที่ผ่านมาแม้จะปฏิเสธว่าไม่เคยวิดีโอลิงค์มาระหว่างการชุมนุม แต่ก็มีการส่งสัญญาณผ่านทางแกนนำ นปช.มาโดยตลอดว่าให้เผาสถานที่ใดบ้าง

ส่วนกระแสข่าวเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น นายเทพไท กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของการเมือง เพราะภายหลังการอภิปรายก็จะมีการประเมินผลงาน และปรับประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาลเพื่อปรับปรุงให้เป็นไปตามเงื่อนไขของนายกฯ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลก็ได้ทำงานมากว่าหนึ่งปีครึ่งแล้ว จึงเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะมีการประเมินการทำงานและประมวลสถานการณ์การทำงานของคณะรัฐมนตรีได้ แต่ทั้งนี้ต้องมีการประชุมและหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ดังนั้นการอภิปรายถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานภายในคณะรัฐมนตรีให้เข้มแข็งมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ