นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หวังฝ่ายค้านมีเหตุผลและนำข้อเท็จจริงมาใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบตามวิถีทางประชาธิปไตยเกิดประโยชน์ในการสร้างความปรองดองมากกว่าเป็นการซ้ำเติมให้เกิดความแตกแยกในสังคมมากขึ้น
"ผมหวังว่าการอภิปรายฯ นั้นจะเป็นการนำเอาข้อเท็จจริง เหตุและผล เข้ามาใช้ในการตรวจสอบ และทุกฝ่ายจะใช้ความระมัดระวังตามสมควรไม่ให้เวทีนี้เป็นเวีทีที่จะไปสร้างความแตกแยกเพิ่มเติม" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวทางรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ทางสถานีโทรทัศน์ NBT เช้านี้
วันที่ 31 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรกำหนดให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 5 คน ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง, นายกษิต ภิรมย์, นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เนื่องากเห็นว่ากระทำผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญ บริหาราชการแผ่นดินโดยไร้ประสิทธิภาพ ขาดภาวะการเป็นผู้นำ และวิสัยทัศน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน ขาดคุณธรรม จริยธรรม ทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย
ล่าสุด สวนดุสิตโพล เผยประชาชนทั่วประเทศ 52.02% เห็นด้วยกับการอภิปรายฯ เพราะรัฐบาลจะมีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการทำงาน จะได้ทำงานรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้น ฯลฯ
โดยนายสุเทพเป็นผู้ที่ประชาชนอยากให้ฝ่ายค้านอภิปรายมากที่สุดในเรื่องเกี่ยวกับการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่ประชาชนอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ทำหน้าที่เป็นผู้อภิปรายมากที่สุด แต่เป็นห่วงว่าจะมีการกล่าวหากันมากเกินไปจนไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ ส.ส. อีกทั้งเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะทำให้การเมืองไทยเหมือนเดิม เพราะต่างฝ่ายต่างมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีนโยบายแนวการทำงานที่แตกต่างกัน มีแต่การเอาชนะคะคาน ฯลฯ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในสัปดาห์จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อดำเนินการตามกระบวนการสร้างความปรองดองในชาติ ซึ่งจะเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ปมปัญหาทางการเมือง การจัดทำสมัชชารับฟังความคิดเห็นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทุกด้านหรือการปฏิรูปประเทศ