นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ช่วงเหตุจลาจล พบว่ามีทั้งสิ้น 39 คดี โดย 2 คดีสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว และอีก 2 คดีอยู่ระหว่างการขออนุมัติออกหมายจับ ส่วนอีก 35 คดีที่เหลือยังไม่สามารถรู้ตัวผู้กระทำผิด
สำหรับ 2 คดีที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว คือ คดีวางเพลิงแถวถนนดินแดง 1 คน และคดีวางเพลิงธนาคารกรุงเทพ(BBL) สาขาพระโขนง 1 คน ส่วนอีก 2 คดีที่อยู่ระหว่างการขออนุมัติออกหมายจับ คือ คดีวางเพลิงช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ มีผู้ต้องหา 8 คน และคดีวางเพลิงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ มีผู้ต้องหา 4 คน
ด้านพล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) มีคำสั่งให้สถานีตำรวจนครบาลทุกแห่งรายงานผลการดำเนินคดีในช่วงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง พบว่ามีทั้งสิ้น 361 คดี แบ่งเป็นคดีเกี่ยวกับวัตถุระเบิด 62 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน ออกหมายจับได้อีก 2 คน
คดีอาญาเกี่ยวกับการวางเพลิงเผาทรัพย์ 39 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน ออกหมายจับได้ 2 คน คดีอาญาเกี่ยวกับการลักทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ ปล้นทรัพย์ 34 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 21 คน ออกหมายจับได้อีก 1 คน, คดีเกี่ยวกับยุทธภัณฑ์ทหาร มีหรือพกพาอาวุธสงคราม 4 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 คน ออกหมายจับได้อีก 2 คน และคดีอาญาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่ง
นอกจากนั้น เป็นการจับกุมขณะตั้งด่านตรวจค้นช่วงประกาศเคอร์ฟิว ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จำนวน 160 คน โดยเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ถึงกว่า 140 คดี