ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย(พท.) เหมารวมอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 5 คน ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย, นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม, นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ซึ่งใช้เวลาอภิปรายเกือบ 2 ชั่วโมง แต่เนื้อหาการอภิปรายพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีบางคนเท่านั้นและจะกลับมาพูดอีกครั้งในช่วงสรุปการอภิปราย
โดย ร.ต.อ.เฉลิม ได้เริ่มอภิปรายเรื่องการทุจริตอนุมัติโครงการการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งมีรัฐมนตรีที่ต้องร่วมรับผิดชอบ 3 คน คือ นายอภิสิทธิ์, นายสุเทพ และนายโสภณ
หลังจากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ได้อภิปรายนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ว่าหมดความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากกระทำการทุจริตต่อหน้าที่กรณียกเลิกโควต้าพิเศษในการจัดซื้ออาวุธปืนสำหรับข้าราชการจำนวน 7 หมื่นกระบอก แล้วกลับไปเซ็นใบอนุญาตเปิดร้านขายปืนเพื่อให้คนไปเรียกรับเงินแห่งละ 4.5 ล้านบาทแทน
"นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ได้สร้างวีรกรรมที่รัฐมนตรีมหาดไทยในอดีต 27 ปีไม่มีใครเซ็นเปิดร้านค้าปืน ท่านเซ็นเปิดทั้งหมด 93 ร้านค้า" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวในการอภิปรายฯ
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ แล้ว และการระดมอาวุธปืนลูกซอง 3,000 กระบอก พร้อมกระสุน 2 พันนัด จาก ชรบ.เพื่อนำมาสนับสนุนการทำงานของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)
ต่อมาเป็นการอภิปรายถึงนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กรณีไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปส์กิ้น ในหัวข้อการพัฒนาการเมืองและเศรษฐกิจไทย เมื่อวันที่ 12 เม.ย.53 โดยมีเนื้อหาส่วนหนึ่งกล่าวล้วงต่อสถาบันเบื้องสูง
ส่วนการอภิปรายถึงการทำงานที่ล้มเหลวของนายกรัฐมนตรี เช่น แทรกแซงการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตร.), นโยบายเศรษฐกิจล้มเหลว, การใช้ความรุนแรงสลายกลุ่ม นปช., แก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้ เป็นต้น รวมทั้งปัญหาที่ดิน สปก.4-01 ของนายสุเทพ และการกู้มาโกงของนายกรณ์นั้น ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่าจะพูดในช่วงสรุปการอภิปราย
"ถ้าเห็นว่าผมพูดตอนนี้แล้วพอจะไปสรุปก็ไม่ขัดข้อง เพราะถ้าผมไม่เปิดหัวไว้เดี๋ยวสรุปก็แปลว่าเปิดประเด็นใหม่ รัฐบาลก็ไม่ยอม" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว