เนื่องในวาระครบรอบ 21 ปีของเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน นายหม่า อิง จิว ประธานาธิบดีไต้หวัน ออกโรงกระตุ้นให้จีนเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ ยอมรับคุณค่าของประชาธิปไตย และอุดช่องว่างด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างช่องแคบไต้หวัน
ในแถลงการณ์ความยาวหนึ่งหน้ากระดาษที่เผยแพร่โดยทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันระบุว่า "เราหวังว่าทางการจีนจะปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อสิทธิมนุษยชน และค่อยๆแก้ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนด้วยความจริงใจและเชื่อมั่น พร้อมทั้งใช้มาตรการที่เปิดกว้างกว่าเดิมในการรับมือกับผู้ที่มีความเห็นไม่ตรงกัน" นายหม่ากล่าว
"การกระทำดังกล่าวไม่เพียงทำให้ชาวจีนรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจทางการจีนมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยอุดช่องว่างด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างช่องแคบไต้หวัน และยังทำให้ประชาคมโลกเห็นว่าจีนให้ความสำคัญกับสันติภาพ เสรีภาพ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน" เขากล่าว
นอกจากนั้นนายหม่ายังยกตัวอย่างเหตุการณ์สังหารหมู่ 228 เมื่อปีพ.ศ.2490 ซึ่งมีชาวไต้หวันถูกสังหารไปหลายหมื่นคน รวมถึงเหตุการณ์ที่เรียกว่า White Terror เพื่อให้จีนหันมาเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ นายหม่าถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากพรรคฝ่ายค้านและกลุ่มสิทธิมนุษยชนจากการที่เขาไม่เอาจริงเอาจังเรื่องสิทธิมนุษยชนในจีน รวมถึงในไต้หวันเอง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน