นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า การปรับคณะรัฐมนตรีภายหลังเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กับพรรคเพื่อแผ่นดิน(พผ.) ในเรื่องการลงมติไม่ไว้วางใจนั้น แสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เกรงกลัวอำนาจการต่อรองของพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากภูมิใจไทยสามารถคุมเสียง ส.ส.ของพรรคได้โดยไม่แตกแถว ต่างจากพรรคเพื่อแผ่นดินที่ ส.ส.มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
ดังนั้นหากมองที่ผลประโยชน์แล้วถือเป็นเรื่องปกติที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเลือกพรรคภูมิใจไทยเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลต่อไป โดยไม่สนใจกระแสที่ต้องการให้ปรับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ที่ไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งต่อไป
นายจิรายุ กล่าวว่า คณะผู้บริหารของพรรคเพื่อไทยได้หารือกับพรรคเพื่อแผ่นดินที่โหวตสวนรัฐบาลในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยได้แสดงความนับถือที่กล้าแสดงออกด้วยการยืนอยู่เคียงข้างประชาชน และวันนี้กรรมการบริหารพรรคจะหารือกับแกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินอีกครั้งว่าจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือจะเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อร่วมกันหาแนวทางตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลต่อไปหรือไม่
ส่วนกรณีที่นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ลงมติไว้วางใจในรัฐบาลนั้น รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะเท่าที่ทราบนายนิคม มีความต้องการที่จะย้ายไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว แต่ต้องรอให้มีการเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งพรรคก็ไม่ได้ติดใจอะไร เนื่องจากเป็นสิทธิของแต่ละคน