ในการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 ซึ่งมีนายสุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ รองประธาน กมธ.คนที่ 4 เป็นประธานการประชุม โดยเป็นการพิจารณางบประมาณของหน่วยงานแรกคือ กระทรวงการคลังจำนวน 209,119,990,000 ล้านบาท ในส่วนกรมธนารักษ์ต่อจากการประชุมเมื่อคืนวันที่ 7 มิถุนายน
กมธ.ทั้งจากฝ่ายค้านและรัฐบาลสอบถามถึงพื้นที่การบุกรุกที่ราชพัสดุ และที่ราชพัสดุที่ทหารครอบครองไว้ เช่น ลพบุรี กาญจนบุรี ทำให้ประชาชนบางคนมีโฉนดมากว่า 50 ปี แต่เมื่อทหารเข้ามาใช้พื้นที่ ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ และเห็นว่าควรเพิ่มงบประมาณของกรมธนารักษ์เพื่อให้สำรวจพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนำมาจัดสรรให้ประชาชนทำกินได้มากขึ้น
นายสุวโรช ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ปกติ กมธ.มักจะปรับลดงบ แต่คราวนี้ กมธ.หลายคนเห็นว่าควรเพิ่มงบเพื่อให้รัฐจัดสรรพื้นที่ทำกินให้ประชาชนได้มากขึ้น จึงสะท้อนว่ามีความขัดแย้งเรื่องที่ดินระหว่างรัฐกับราษฎรจริง
ด้านนายวัฒนา เชาวสกู รองอธิบดีกรมธนารักษ์ ชี้แจงว่า ที่ราชพัสดุรวมทั้งประเทศมี 12.5 ล้านไร่ ใช้สำหรับราชการ 99% มีการบุกรุก 2 ล้านไร่เศษ กรมมีมาตรการการป้องกันไม่ให้มีการรุกล้ำที่ราชพัสดุ เช่น โครงการปักหลักเขต ซึ่งทำทุกปี แต่ปีหนึ่งๆทำได้ไม่มากเนื่องจากงบประมาณและกำลังคนไม่เพียงพอ ส่วนมาตรการการแก้ไขหลังจากมีผู้บุกรุกแล้ว ถ้าพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นอยู่มานานเป็นสิบๆปีตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นพ่อแล้วก็ให้อยู่ต่อไป แต่หากอยู่ไม่ถึงก็จะให้เช่ากรณีเป็นผู้บุกรุกเก่า แต่ถ้าเป็นผู้บุกรุกใหม่จะก็ดำเนินคดีทุกกรณี เช่นที่สวนผึ้ง
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเรียกคืนพื้นที่ที่ส่วนราชการใช้ประโยชน์ไม่ครบถ้วน โดยมีโครงการเรียกคืนที่ของราชการตั้งแต่ปี 49 ตั้งเป้าให้ได้ 1 ล้านไร่ โดยปี 50 เรียกคืนได้ 1.56 แสนไร่, ปี 51 ได้ 1.1 แสนไร่ และ ปี 52 ได้ 5 แสนไร่ ซึ่งเมื่อได้ที่คืนมาแล้ว กรมก็ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจขอบเขตและสภาพพื้นที่ จากนั้นจะแยกแยะการจัดสรรให้ราชการ เกษตรกร การทำการพาณิชย์และการทำพื้นที่เชิงสังคมเช่น สวนสาธารณะ ส่วนงบประมาณนี้ที่จัดสรรให้กรม คาดว่าจะบริหารพื้นที่ที่ได้คืนมาเพื่อจัดสรร 1แสนไร่
สำหรับการเรียกที่ดินคืนมาแล้วให้เกษตรกรเช่าที่ราชพัสดุ ปี 47 จำนวน 5,800 ราย รวม1.3 หมื่นไร่, ปี 48 จำนวน 6,800 ราย รวม 1.6 หมื่นไร่, ปี 49 จำนวน 8,800 ราย รวม 3 หมื่นไร่, ปี 50 จำนวน 10,000 ราย รวม 2.1 หมื่นไร่, ปี 51 จำนวน 9,000 ราย รวม 2.3 หมื่นไร่, ปี 52 จำนวน 9,920 ราย รวม 2.6 หมื่นไร่ ส่วนปี 53 ขณะนี้มีจำนวน 5,200 ราย
ส่วนพื้นที่ราชพัสดุที่นำไปทำโครงการบ้านมั่นคง ปี 49-53 ทำเอ็มโอยูแล้ว 64 ชุมชน ทำสำเร็จแล้ว 39 ชุมชน เฉลี่ยทำสำเร็จกว่า 10 ชุมชนต่อปี
อย่างไรก็ตาม หลังการชี้แจงของ กมธ.ไม่ได้ปรับลด หรือเพิ่มงบประมาณแต่อย่างใด