นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เปิดเผยว่า วันนี้จะลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานของ กกต. 7 คน เพื่อเป็นคณะทำงานพิจารณาร่วมกับอัยการสูงสุดในกรณีที่ระบุว่าหลักฐานของกกต.ยังไม่เพียงพอต่อการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาคจำนวน 258 ล้านบาท
โดยมั่นใจว่าคณะกรรมการของกกต.ที่จะตั้งขึ้นเป็นคณะทำงานร่วมกับอัยการสูงสุดนั้น จะเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และเป็นบุคคลที่รู้เรื่องดี
ประธาน กกต. กล่าวว่า ในสำนวนคดีดังกล่าวนี้ อัยการสูงสุดมีความเห็นตรงกับความเห็นส่วนตัวของตนที่ได้ลงมติไปว่า หลักฐานยังไม่หนักแน่นเพียงพอต่อการส่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่ตนแพ้โหวตกลายเป็นเสียงข้างน้อย ซึ่งเมื่อกกต.มีมติตามเสียงข้างมากก็ต้องดำเนินการตามนั้น
ส่วนที่จะเป็นเหตุให้พรรคประชาธิปัตย์นำเสียงข้างน้อยของตนที่ให้ยกคำร้องมาใช้เป็นข้อต่อสู้ เนื่องจากยังไม่ได้ชี้ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ตามกฎหมายนั้น นายอภิชาต เชื่อว่าไม่น่าจะนำมายกเป็นอ้างได้ เพราะทุกมติย่อมมีเสียงข้างมากและข้างน้อย
"ความเห็นผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง และการดำเนินการขณะนี้ก็ต้องรอทางคณะทำงานที่พิจารณาร่วมกันว่าเขาจะเห็นอย่างไร และคงต้องปล่อยให้เข้าพิจารณาไปก่อนตามประเด็นที่อัยการสูงสุดต้องการ แต่ในวันนี้ผมน่าจะได้เซ็นคำสั่งแต่ตั้งคณะทำงานของกกต." นายอภิชาต กล่าว
ประธาน กกต. ยังกล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ถูกโจรกรรมคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กที่มีข้อมูลเรื่องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่ทั้งนี้คงจะไม่เข้าไปก้าวล่วงต่อระบบการเก็บข้อมูลของดีเอสไอ โดยหวังว่าข้อมูลคงไม่หายไปทั้งหมด อย่างไรก็ดี หากเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับกกต.ก็คงต้องสั่งให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง