โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) เรียกร้องให้นายจรัญ ภักดีธนากุล และนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถอนตัวออกจากองค์คณะในการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เนื่องจากมีพฤติกรรมกระทำผิดรัฐธรรมนูญและจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเป็นผู้ที่มีทัศนะคติด้านลบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับพรรค ปชป.
"ผมได้รับเอกสารที่มีประชาชนผู้หวังดีส่งมาให้เพื่อเปิดเผยพฤติกรรมของนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ส่อว่ากระทำผิดข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญและจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค พท.กล่าว
โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวระบุว่าในการพิจารณาคดีที่ให้นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี กรณีจัดรายการ"ชิมไป-บ่นไป"นั้น เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.52 เวลาประมาณ 10.00-11.30 น.นายวสันต์ได้สั่งให้เลขานุการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์จัดทำสำเนาภาพวีดีทัศน์การออกนั่งพิจารณาคดีทุกนัดส่งให้ตนเองโดยไม่แจ้งวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ประโยชน์ แต่เจ้าหน้าที่ดังกล่าวไม่ดำเนินการและได้รายงานต่อเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.52
"การกระทำของนายวสันต์ดังกล่าวเป็นการทำผิดข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะการจะขอทำสำเนาดังกล่าวจะต้องเขียนคำร้องตามแบบฟอร์มเพื่อขออนุญาตต่อประธานศาลรัฐธรรมนูญ หรือยื่นต่อเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อนำเข้าสู่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะอนุญาตหรือไม่ แต่นายวสันต์กลับสั่งด้วยวาจาให้ดำเนินการดังกล่าวซึ่งส่อว่ามีเจตนาไม่สุจริต เพราะตนเองเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องถูกผูกพันตามข้อกำหนดและระเบียบที่กำหนดไว้ด้วย และการนำข้อมูลการพิจารณาคดีไปโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ทราบวัตถุประสงค์ดังกล่าว" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า นายวสันต์เป็นตุลาการฯ แต่ทำผิดรัฐธรรมนูญเพราะข้อกำหนดในการดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีของศาลฯ เป็นการออกโดยอาศัยอำนาจของกฎหมาย เมื่อกระทำผิดข้อกำหนดจึงถือเป็นการกระทำผิดข้อกฏหมายอีกส่วนหนึ่งด้วยและการกระทำดังกล่าวน่าจะเป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 197 ที่บัญญัติว่า "การพิจารณาพิพากษาอรรถคดี เป็นอำนาจของศาลซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปโดยยุติธรรม ตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย"
นอกจากนี้ยังเป็นการไม่ให้เกียรติประธานและคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับนายวสันต์ และนายจรัญ เป็นผู้ที่มีทัศนะคติด้านลบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นนายวสันต์และนายจรัญจึงควรถอนตัวออกจากการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ตามที่ตนเองเคยแสดงเจตนาไว้
โฆษกพรรค พท.ยังท้านายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้ไปสาบานต่อหน้าพระแก้วมรกตว่า ไม่ได้พบนายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนทบุรี พรรค ปชป.ที่ไปยื่นคำร้องขอขยายเวลาการพิจารณาคดียุบพรรค เพราะเท่าที่ทราบข้อมูลมีการให้นายทศพลเข้าไปพบที่ห้องทำงาน