โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) มองการประกาศแผนปรองดองของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นเพียงแค่การสร้างภาพ เพื่อหวังให้เกิดความชอบธรรมหรือเป็นการซื้อเวลาที่จะให้รัฐบาลสามารถอยู่ในตำแหน่งเพื่อบริหารประเทศได้ต่อไปเท่านั้น
"เป็นการสร้างความชอบธรรมในการบริหารประเทศ และต้องการซื้อเวลาในการเป็นรัฐบาลต่อไป และการตั้งคณะกรรมการฯก็เพื่อหวังฟอกตัวเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเคยประกาศว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย.แต่วันนี้กลับยื้อเวลาออกไป" นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค พท.กล่าว
โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า ผู้สั่งปราบประชาชนคือนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลที่ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองใดๆ เพราะคิดว่าถือไพ่เหนือกว่าทั้งผู้ชุมนุมและฝ่ายค้าน ด้านหนึ่งนายอภิสิทธิ์กลับดำเนินแผนปองร้ายฝ่ายขั้วตรงข้ามทางการเมือง โดยให้ฟื้น คตน.สางคดีฆ่าตัดตอนยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หวังเอาผิดเพราะเป็นคู่แข่งทางการเมือง และออกหมายจับคดีก่อการร้ายกับนักการเมืองฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลรวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุม
"การกระทำของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ต่างไปจากรัฐบาลหน้ากากประชาธิปไตยหัวใจทรราช รวมถึงการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปจนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2553 ซึ่งเป็นกฎหมายครอบจักรวาล ให้อำนาจรัฐบาลเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จับกุมคุมขังได้ 30 วันโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมตามปกติ " นายพร้อมพงศ์ กล่าว
โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า จุดยืนของพรรคจึงไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปรองดองบนกองเลือดและซากศพของประชาชนหรือการปรองดองแบบมัดมือชก เพราะแนวทางนี้จะเป็นชัยชนะในระยะสั้นของรัฐบาลเท่านั้น แต่จะเป็นความพ่ายแพ้ของประเทศในระยะยาวเหมือนกับสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่ว่าจะส่งกำลังทหารจำนวนมากหรืองบประมาณจำนวนมหาศาลก็ไม่อาจยุติความขัดแย้งได้ เนื่องจากรัฐบาลมุ่งเน้นใช้อำนาจควบคุมประชาชนมากกว่า
"ถ้าคิดจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติ ไม่ใช่เล่นเกมซื้อเวลาตั้งคณะกรรมการปรองดองเพื่อยืดอายุให้รัฐบาลอยู่ต่อไปท่ามกลางความขัดแย้ง ความแตกแยกที่เกิดขึ้นจากการกระทำของรัฐบาล" นายพร้อมพงศ์ กล่าว