พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ว่าที่หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ และอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) แสดงความพร้อมที่จะลงสนามเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะเป็นการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในระบบสัดส่วนหรือระบบแบ่งเขต ส่วนการดึงสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินมาร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคมาตุภูมินั้น เป็นเรื่องที่ทั้ง 2 พรรคมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันและไม่ขัดข้องที่จะทำงานร่วมกัน แต่ขึ้นอยู่กับกติกาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ด้วย
พล.อ.สนธิ มองว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้มีปัญหาสำคัญในเรื่องความขัดแย้งและปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยสังคมยังขาดความเป็นปึกแผ่น ต่างคน ต่างคิด ต่างทำ ซึ่งหากสามารถแก้ไขในประเด็นนี้ได้ทุกอย่างจะเรียบร้อย ส่วนนโยบายการปรองดองนั้นเป็นสิ่งดีสำหรับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ เพราะหากไม่พูดคุยกันก็ไม่มีทางปรองดองได้
"การจะปรองดองกันได้ แต่ละฝ่ายต้องผ่อนปรนเงื่อนไขของตนด้วย โดยนึกถึงประเทศชาติเป็นหลัก แต่ปัญหาอยู่ที่ใจพวกเรา ใจคนไทยยังไม่แน่นพอ ยังหลวมๆ ทำให้ไม่รู้ว่าจุดยืนของแต่ละคนอยู่ตรงไหน จะอยู่ที่คนหรือชาติบ้านเมือง ดังนั้นต้องตั้งสมาธิให้ได้ว่าเรากำลังทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง" พล.อ.สนธิ กล่าว
ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นปัจจัยหนึ่งของการปรองดองหรือไม่นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ปัจจัยภายนอกมีผลกระทบบ้างแต่คงไม่มาก อยู่ที่พวกเรากันเองจะต้องพูดคุยกัน พร้อมให้ความเห็นถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้รื้อฟื้นคดีฆ่าตัดตอนยาเสพติดสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินการว่า ก็ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลนำเรื่องนี้มาดำเนินการในขณะนี้จะเหมาะสมหรือไม่
พล.อ.สนธิ ยังเชื่อว่าถ้ามีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง สถานการณ์ก็จะไม่น่าเป็นห่วงแม้ในอนาคตจะมีการยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่ข้อห่วงใยเรื่องการเคลื่อนไหวใต้ดินนั้น เห็นว่าเงื่อนไขการปลุกกระแสยังไม่เพียงพอ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยทั้ง 100%