สวนดุสิตโพล เผยประชาชนส่วนใหญ่มองการปรับ ครม."อภิสิทธิ์ 5"เป็นเพียงหนทางเพื่อมุ่งหวังที่จะรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลไว้เท่านั้น เพราะไม่ได้ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาล การบริหารงาน ตลอดจนสถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น อีกทั้งเห็นว่าถึงเวลาที่จะยกเลิกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณฉุกเฉินและการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
โดยประชาชนกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 38.28% เห็นว่า สาเหตุที่มีการปรับ ครม.นั้นเพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล, 61.64% เห็นว่า ปรับ ครม.แล้ว ภาพลักษณ์และผลงานของรัฐบาลยังเหมือนเดิม เพราะเวลาในการบริหารประเทศที่เหลืออยู่ของรัฐบาลมีน้อย รัฐมนตรีที่เข้ามาทำงานยังคงเป็นนักการเมืองกลุ่มเดิมๆ และ 62.73% เห็นว่า สถานการณ์บ้านเมืองก็ยังเหมือนเดิม เพราะนักการเมืองส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มเดิมๆ มีการแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย เป็นเรื่องของผลประโยชน์
สิ่งที่ประชาชนคาดหวังหลังจากปรับ ครม.แล้ว 39.37% อยากให้รัฐมนตรีและรัฐบาลตั้งใจแก้ปัญหาของบ้านเมือง, 25.78% อยากให้เร่งแก้ปัญหาความตกต่ำทางเศรษฐกิจ และอีก 10.45% อยากให้เดินหน้าแผนปรองดองทันที
และประชาชนส่วนใหญ่ 44.60% อยากให้รัฐบาลควรยกเลิก ศอฉ.และการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยทันที แต่อีก 32.39% เห็นว่ายังไม่ควรยกเลิก เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ยังมีผู้ไม่หวังดีคอยก่อกวนเป็นระยะๆ หากยังมี ศอฉ.และการประกาศใช้ พ.ร.ก.อยู่จะทำให้ง่ายต่อการควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่
ส่วนการจัดการเลือกตั้งใหม่นั้น ประชาชนกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 51.42% เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 54 ตามที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้ เพราะคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมีเวลาในการเตรียมตัวหรือวางแผนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ทั้งนี้ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นดังกล่าวจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,225 คน ระหว่างวันที่ 8-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา