ศอฉ.ยังไม่ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ-เล็งออกกม.พิเศษยกเว้นโทษให้ผู้ชุมนุม

ข่าวการเมือง Friday June 11, 2010 17:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) โดยมีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือโดยพร้อมเพียง ทั้งนี้นายสุเทพ ได้หยิบยกประเด็นการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาหารืออีกครั้ง สาเหตุเพราะมีหลายฝ่ายท้วงติงให้รัฐบาลและ ศอฉ.ยกเลิกเนื่องจากได้รับผลกระทบ

แต่ทั้งนี้ทางกองทัพปฏิเสธที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในช่วงนี้ เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มเสื้อแดงหลายพื้นที่ยังคงมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ หาก ศอฉ.ประกาศยกเลิกทันทีก็เกรงว่าทำให้สถานการณ์ควบคุมไม่ได้ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำชับให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เร่งรวบรวมเหตุการณ์จลาจลเมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 รวมถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหาร, ตำรวจ มารวมรวบเป็นแผ่นวีซีดีแจกจ่ายให้กับประชาชนในแต่ละพื้นที่ เพื่ออธิบายข้อเท็จจริงให้กับประชาชนที่ยังไม่ถึงเหตุการณ์ที่แท้จริง

          แหล่งข่าวในที่ประชุม กล่าวว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้รายงานผลความคืบหน้าคดีการก่อการร้ายให้ที่ประชุมได้รับทราบ โดยขณะนี้ได้รวบรวมบุคคลที่เข้าข่ายคดีก่อการร้ายเพิ่มเติมอีกกว่า 100 คน ส่วนแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่หนีการจับกุมในข้อหาคดีการก่อการร้ายนั้น ที่ประชุมได้กำชับให้ทหาร, ตำรวจ และดีเอสไอ เร่งดำเนินการเรื่องในเรื่องเป็นการด่วน เพราะเกรงว่าบุคคลเหล่านี้จะไปสร้างความเดือดร้อนหรือปลุกระดมให้มวลชนคนเสื้อแดงลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอีก
          "ที่ประชุมได้ให้ดีเอสไอไปดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินการกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ โดยที่ไม่ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีการก่อการร้าย ตั้งแต่โทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปจนถึง 2 ปี ทาง ศอฉ.จะละเว้นโทษให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยศอฉ.จะออกกฎหมายฉบับพิเศษ เพื่อช่วยเหลือกับกลุ่มผู้ชุมนุมเหล่านี้" แหล่งข่าว กล่าว
          ส่วนผู้ที่ถูกตั้งข้อหาการก่อการร้าย จะต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด เพราะถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ยังให้ ดีเอสไอไปดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในช่วงเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ผ่านมา เพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนที่ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ