นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าหากการออกกฎหมายใดๆก็ตามสร้างปัญหาในอนาคต รัฐบาลก็จะไม่ดำเนินการ ซึ่งในส่วนพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงก็ได้มีการพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว ในเบื้องต้นจะเป็นการพิจารณาจากทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ก่อน หากจะมีการออกเป็น พ.ร.บ.ก็จะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา แต่ในขณะนี้เป็นเพียงขั้นตอนศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น
"ผมได้คุยกับรองสุเทพแล้ว การดำเนินการใดๆ จะต้องไม่ให้เป็นปัญหาในอนาคต ถ้าเป็นปัญหาเราจะไม่ทำ" นายกฯ ระบุ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ในขณะนี้ได้รับทราบข้อมูลว่ามีความพยายามเคลื่อนไหว แต่รัฐบาลจะพยายามรักษากฎหมายเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ซึ่งสิ่งสำคัญจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม จึงเป็นเหตุผลสำคัญทำให้ในขณะนี้ ต้องยังคงพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เอาไว้
นอกจากนี้ ในส่วนของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่ได้มาคุยกันในช่วงเช้า นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าภาคเอกชนเองก็ต้องเข้ามามีส่วนช่วย หากต้องการเห็นภาพลักษณ์ที่ดี ภาคธุรกิจเอกชนก็ต้องใช้ศักยภาพของตนเองในการทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย เพราะถ้าหากจะรอให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาช่วยเหลือคงจะไม่สามารดำเนินการใดๆ ได้
สำหรับการเดินหน้าตามแผนปรองดองถือเป็นเรื่องยาก แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และจำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย ยืนยันว่าจะต้องเดินหน้าต่อ
"ง่ายที่สุดในเรื่องนี้ ไม่ต้องคิดจะทำก็ได้ แต่ผมยังเห็นว่าต้องเดินหน้าทำ เพราะถือเป็นหน้าที่ ความรับผิดชอบ ต้องแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย รู้ว่ายาก ยังไงก็ต้องเดินหน้า" นายกรัฐมนตรี กล่าว
การประเมินความคืบหน้าตามแผนปรองดอง คงจะมากำหนดระยะเวลาตายตัวไม่ได้ว่าจะเป็น 3 เดือนหรือ 6 เดือน ขณะนี้การดำเนินหน้าตามแผนต้องทำตลอดเวลาอยู่แล้ว