นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวคิดของนายสิทธิชัย โภไคยอุดม อดีต รมว.เทคโทโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)ที่เห็นว่ารัฐบาลควรยิงดาวเทียมใหม่เองเพื่อดูแลด้านความมั่นคงนั้น เป็นทางเลือกหนึ่งที่กำลังศึกษาอยู่ในการที่รัฐบาลต้องการเป็นผู้บริหารจัดการดาวเทียมสื่อสาร ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังและกระทรวงไอซีทีกำลังพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ ให้มีความรอบคอบ โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมให้มีความคุ้มค่ามากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึงแหล่งเงินที่จะนำมาใช้หากจะต้องเข้าซื้อหุ้นบมจ.ไทยคม(THCOM)จากกลุ่มเทมาเซค ซึ่งการตัดสินใจขึ้นกับกระทรวงการคลังพิจารณา และขณะนี้ยังมีหลายทางเลือก โดยความจำเป็นที่ต้องซื้อคืนเนื่องจากมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์และมีผลต่อการแข่งขัน รวมถึงด้านความมั่นคงของประเทศ
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า กรณีการเจรจาเรื่องดาวเทียมไทยคมกับเทมาเซคไม่ได้มีการตัดสินใจ ยังเป็นเพียงแค่การศึกษาเท่านั้น ซึ่งเป็นเพียงการไปคุยมา ไม่ใช่การเจรจาซื้อขาย แต่ไปทำความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นทางด้านความมั่นคง ซึ่งระหว่างนี้กระทรวงการต่างประเทศจะขอความร่วมมือไปยังประเทศต่างๆ ในเรื่องการเผยแพร่สัญญาณดาวเทียมในเรื่องที่อาจจะกระทบกับความมั่นคงในประเทศของไทยด้วย
ส่วนกระแสข่าวที่ว่ารัฐบาลจะนำเงิน 4.5 หมื่นล้านบาทที่ได้จากการยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาซื้อหุ้นดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะเก็บเงินในส่วนนั้นไว้เสริมฐานะทางการคลัง
นายกรัฐมนตรี ยังกลล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านออกมากล่าวหาว่ารัฐบาลมีเจตนาปั่นหุ้น THCOM และมีนักการเมืองในรัฐบาลชื่อย่อ ก.และ ศ.ได้รับประโยชน์นั้น พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เข้าไปตรวจสอบในเรื่องนี้ แต่จะให้เป็นหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ไปดำเนินการ