นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคสรุปว่า กรณีรัฐบาลระบุจะซื้อคืนดาวเทียมไทยคม น่าจะมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในรูปแบบให้คนใกล้ชิดประมาณ 10 คนเข้ามาปั่นหุ้น ซึ่งสถิติราคาซื้อขายหุ้นบมจ.ไทยคม (THCOM) 2 เดือนที่ผ่านมาเริ่มจาก วันที่ 4 พ.ค.2553 จะอยู่ที่ 18 ล้านบาทต่อวัน มูลค่าการซื้อขายต่ำสุดที่ 2.4 ล้านบาท สูงสุดที่ 82 ล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตามปกติ แต่เมื่อมีข่าวเรื่องการซื้อขายดาวเทียมไทยคมคืนในวันที่ 14 มิ.ย. 2553 มูลค่าการซื้อวันเดียวก็เพิ่มสูงขึ้นเป็น 825 ล้านบาท ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นทันที 29.63% จาก 5.65 จุด เป็น 7.05 จุด ต่อมาวันที่ 15 มิ.ย. มูลค่าการซื้อขายได้เพิ่มสูงขึ้น 1,346 ล้านบาท หุ้นไทยคมปิดที่ 7.20 จุด และวันนี้ราคาหุ้นตกลงมาอยู่ที่ 6.9 จุด หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาปฏิเสธอาจจะไม่การซื้อคืนดาวเทียมไทยคม
"ทั้งหมดเป็นการกระทำในลักษณะที่รู้ข้อมูลภายใน โดยเป็นการกว้านซื้อหุ้นก่อนของตัวแทนของนักการเมือง 10 กว่าคน ก่อนที่จะมีการออกข่าวว่าจะซื้อคืนดาวเทียมไทยคม เมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้นก็หาประโยชน์ โดยมีการเชื่อมโยงกับนักการเมืองอักษร ย่อ "ก." และ "ศ."
นอกจากนี้ พรรคยังได้ข้อมูลจากผู้เล่นหุ้นรายย่อย 9 คนที่ขาดทุนจากการซื้อหุ้นไทยคม โดยรายหนึ่งขาดทุนกว่า 10 ล้านบาท ว่ามีการปั่นหุ้นจริง โดยวันนี้ตนจะเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.)เพื่อยื่นเรื่องให้ตรวจสอบข้อมูล เอาผิด กับการปั่นหุ้น และให้กลต.ร้องทุกข์กล่าวโทษด้วย โดยให้เวลากลต.ตรวจสอบ 30 วัน หากยังไม่มีความคืบหน้า จะตรวจสอบต่อไป