นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากได้ตัวบุคคลที่มาทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการชุดปฏิรูปประเทศไทยแล้ว มั่นใจว่าจะทำให้แผนงานด้านนี้เดินหน้าไปได้ แม้อาจจะไม่เป็นที่ยอมรับจากทุกคนในสังคม แต่เชื่อว่าผลการทำงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้
"ผมมั่นใจว่าเมื่อได้ตัวแล้ว จะเดินหน้าทำงานได้ ส่วนจะตอบรับทั้ง 100% นั้นคงจะไม่ได้ ทั้งนี้จะต้องพิสูจน์ด้วยการทำงาน" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ยังไม่ขอระบุชัดว่าประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะใช่นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพียงแต่เห็นว่าบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ประธานฯ ต้องสามารถมองปัญหาได้ทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก และสามารถระดมความร่วมมือจากภาคประชาชนได้ อีกทั้งเชื่อว่าคณะทำงานชุดที่ตั้งขึ้นมาจะไม่ทำให้สังคมเกิดความหวาดระแวงหรือคลางแคลงใจ แม้อาจจะมีบางส่วนมองว่าคณะทำงานที่ตั้งขึ้นมานั้นทำเพื่อฝ่ายการเมือง
อย่างไรก็ดี เห็นว่ากระบวนการปฏิรูปประเทศคงจะไม่สามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในรัฐบาลนี้
ส่วนคณะกรรมการชุดแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) เป็นประธานนั้น ขณะนี้ไม่พบว่ามีบุคคลใดขอถอนตัวออกจากการเป็นกรรมการ และไม่อยากให้มองว่าเป็นคณะกรรมการฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือกลุ่มเสื้อเหลือง เพราะในความจริงนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อีกทั้งได้กำชับไปยังคณะกรรมการฯ แล้วว่าจะต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายอย่างแท้จริง
นายกรัฐมนตรี คาดว่า คณะกรรมการชุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องใช้เวลามากกว่า 4 เดือน เพราะหลังจากที่คณะกรรมการฯ ได้สรุปประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว จากนั้นจะต้องใช้เวลาอีกระยะในการแก้ไขกฎหมายเรื่องการทำประชาพิจารณ์ต่ออีก
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มเสื้อแดงพยายามจะเพิ่มจำนวนคนไปเยี่ยมแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ที่ถูกคุมขังนั้น นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า คงจะไม่สามารถไปกดดันการทำงานของศาลได้ ซึ่งหากกลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกรอบกฎหมายคงจะไม่เป็นไร แต่หากมีความพยายามที่จะกดดันศาล ศาลคงมีมาตรการรองรับไว้อยู่แล้ว