นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังเข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่บ้านพิษณุโลกว่า ได้ตอบรับข้อเสนอเข้ามาทำงานให้กับภาคประชาชน พร้อมยืนยันว่ากระบวนการและกลไกที่จะสร้างขึ้นจะไม่ตกอยู่ภายใต้กรอบการทำงานและการครอบงำจากรัฐบาล ต้องเป็นอิสระ โดยที่นายกรัฐมนตรีต้องไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง
ในสัปดาห์หน้า ตนและ นพ.ประเวศ จะไปพบกับคณะทำงานด้านองค์กรชุมชนเพื่อหารือกันต่อไป ในขั้นตอนนี้จะมี 2 กลไก ที่สร้างขึ้นมา คือ คณะกรรมการปฏิรูปในการกำหนดยุทธศาสตร์ กำหนดลำดับก่อนหลัง หาข้อยุติ เพื่อให้รัฐบาลนำไปปฏิบัติ และในส่วนของศ.นพ.ประเวศ จะเป็นกลไกที่สืบเนื่องมาจากสมัชชาองค์กรชุมชน และจะทำงานประสานกันทั้งสองส่วน
"คณะกรรมการทั้ง 2 ชุดนี้ ไม่ใช่คณะกรรมการที่จะทำงานด้านปรองดอง ซึ่งคาดว่าประมาณปลายสัปดาห์หน้า หรือประมาณ 10 วัน จะมีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้นมา เพื่อจัดตั้งกลไกต่างๆ และเลือกกรรมการขึ้นมาประมาณ 15-20 คน และมีความหวังว่าทุกคนที่ได้รับการติดต่อไปจะรับเป็นกรรมการร่วมกับผมได้ ในส่วนของคณะกรรมการของ ศ.นพ.ประเวศ วะสีๆ จะเป็นคนแต่งตั้งเอง การแต่งตั้งกรรมการทั้ง 2 ชุดเป็นอำนาจหน้าที่ของผม และ ศ.นพ.ประเวศโดยตรง รัฐบาลจะไม่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่นี้ต่อไปเป็นเรื่องของผม และศ.นพ.ประเวศ เป็นคนดำเนินการ" นายอานันท์ กล่าว
นายอานันท์ ยังระบุอีกว่า เรื่องการปฏิรูปประเทศจะไม่กำหนดกรอบระยะเวลาการทำงาน เนื่องจากการปฏิรูปไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่กับที่ได้ แม้ว่ารัฐบาลจะหมดเวลาการทำหน้าที่ แต่การปฏิรูปก็ต้องเดินหน้าต่อเนื่องไป
ด้าน นพ.ประเวศ กล่าวว่า เรื่องการดำเนินการของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของสังคม ประชาชนบวกกับภาควิชาการ จุดสำคัญในการทำงานก็คือ อำนาจของรัฐบาลอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องมีพลังทางสังคม และพลังทางปัญญา ต้องย้ำว่าอย่านำเอาเรื่องปรองดอง และการปฏิรูปมาปนกัน ต้องแยกเป็นคนละเรื่อง เรื่องของการปรองดองเป็นเรื่องของอดีต เรื่องของการปฏิรูปเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งเป็นการรวมกันทำสิ่งใหม่ที่ดีต่อไปในอนาคต การทำงานจะเป็นการเดินหน้าปฏิรูป โดยหวังว่าถ้าปฏิรูปได้ สร้างความเป็นธรรม ถ้าสังคมมีความเป็นธรรมคนจะรักกันมาก คนจะรักชาติ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในด้านต่างๆ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจากการคุยกันจะมีคณะกรรมการ 2 คณะ คือ คณะกรรมการกำกับการปฏิรูป โดยมีนายอานันท์ เป็นประธานคณะกรรมการ จุดสำคัญของคณะกรรมการชุดนี้คือ เป็นคณะยุทธศาสตร์การปฏิรูป อีกคณะหนึ่งคือ คณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป เพื่อเป็นคู่มือนำเอาส่วนรวมของสังคมทุกภาคส่วน เช่น ชุมชนท้องถิ่น และองค์กรต่างๆ เข้ามาว่ามีข้อเสนอแนะอะไร อยากเห็นอะไร นำเข้ามาเชื่อมกับงานทางวิชาการ แล้วนำกลับไปหาประชาชนอีกครั้ง จนกระทั่งเกิดเป็นเป้าหมายและวิสัยทัศน์ร่วมของสังคม สำหรับหน้าที่ของรัฐบาลเป็นการสนับสนุน และรับข้อเสนอจากคณะกรรมการไปปฏิบัติ เป็นอิสระทำงานเชื่อมโยงกันทั้ง 2 คณะ หวังว่าเป็นกลไกที่จะช่วยบ้านเมืองถ้าช่วยกันทำ ซึ่งเป็นเรื่องของภาคประชาชนและทุกภาคส่วน