นายกฯยืนยันคกก.ปฏิรูปและปรองดองจะทำงานโดยไม่เลือกเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ข่าวการเมือง Sunday June 20, 2010 10:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ถึงการปฏิรูปประเทศไทย ว่า ตอนนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์และมีความสับสนพอควร

"มีคนถามว่าปฏิรูปและปรองดองเกี่ยวข้องกันอย่างไร การปรองดองเรากำลังพูดถึงการรวมพลังของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ระหว่างผมกับอีกฝ่ายทางการเมือง แต่ปรองดอง คือ เราหยิบเอาปัญหาที่เป็นความขัดแย้ง เช่น รัฐธรรมนูญ การใช้สื่อ ฯลฯ แล้วก็มารวมพลังความเห็นจากคนทั้งประเทศ เมื่อมีแผนอย่างนี้แล้วก็มีคณะกรรมการที่เชิญคุณคณิต ณ นคร มาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง"นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนการปฏิรูปที่ผ่านมาเกิดปัญหาเชิงโครงสร้างความไม่เป็นธรรมในสังคมหลายอย่าง ถึงเวลามาสะสางกันในลักษณะเป็นโครงสร้างเป็นระบบ ตรงนี้ก็ต้องมีการปฏิรูป โดยจะให้ภาคประชาชนขับเคลื่อนอย่างเป็นอิสระ จะให้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ไปพูดคุย เช่น นพ.ประเวศ วะสี นายอานันท์ ปันยารชุน ซึ่งจากที่ได้สอบถามท่านเหล่านั้น ท่านก็เต็มใจทำ แต่ท่านก็ขอเวลาในการวางรูปแบบต่างๆ

สำหรับเรื่องความมั่นใจว่าคณะกรรมการชุดเหล่านี้ นายกฯกล่าวว่า ทุกคนที่ผมเชิญมาคิดว่ามีใจที่จะทำงานให้กับทุกคน ไม่ได้มีความคิดที่จะเป็นปฎิปักษ์กับใคร เช่น กรณีคนเป็นหนี้จะมีความคิดทางการเมืองอย่างไรก็ตาม เราก็ต้องแก้ให้เขาหมด ในมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้ไปเลือกอยู่แล้วว่าถ้ามีความคิดเห็นทางการเมืองเหล่านี้แล้วจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ มันไม่มี แต่เราต้องเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้ทำงาน ถ้าเขาทำงานและพยายามแก้ไข ทุกฝ่ายก็ควรเข้ามามีส่วนร่วม

"ก็มีนักข่าวถามผมเหมือนกันว่าจะพาท่านมาเสียคนตอนแก่หรือเปล่า แต่ผมว่าท่านเหล่านี้ตั้งใจทำงานเพื่ออนาคตของประเทศ"นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้ ว่า ตอนนี้ที่วิพากษ์วิจารณ์ก็จะมาจากผู้นำหรือแกนนำมากกว่า แต่เราก็พยายามชี้แจงว่าเราแก้ปัญหาให้คนทุกคน ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หลักการคือในเชิงความต้องการความเดือดร้อนและความทุกข์ต้องฟังจากประชาชน แต่ดีที่สุดคือให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง

"เราคงไม่บอกว่ารัฐไปแก้ทุกปัญหา เพราะบางเรื่องอาจจะไม่เกี่ยวกับรัฐ ผมพูดกับภาคธุรกิจว่า เรื่องความเหลื่อมล้ำภาคธุรกิจต้องไปแก้ มีปัญหาระหว่างธุรกิจใหญ่และเล็ก หรือเช่นมาบตาพุดก็เป็นปัญหาอุตสาหกรรมกับชุมชน ไม่ใช่ว่าภาครัฐอย่างเดียวจะไปแก้ได้ หรือเรื่องสวัสดิการชุมชน โฉนดชุมชน รัฐบาลแก้เองไม่ได้ ชาวบ้านต้องรวมตัวกันก่อน การมีแนวคิดว่ารัฐบาลแก้ได้ทุกเรื่องก็เป็นปัญหาส่วนหนึ่ง ซึ่งถ้าเราก้าวข้ามแนวคิดนี้ไปได้ก็น่าจะดี ต้องสร้างความเข้าใจว่าหลายส่วนที่มีส่วนรวมได้ เช่น ภาครัฐบาล ภาคสังคม เยาวชนคนรุ่นใหม่"นายกรัฐมนตรี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ