นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงการยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า ขณะนี้ยังพบว่ามีความเคลื่อนไหวนัดพบปะกันของกลุ่มคนเสื้อแดงตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลยังมีความจำเป็นต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไว้ก่อน แต่ยืนยันว่าหากรัฐบาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่าบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ก็พร้อมจะยกเลิก พ.ร.ก.ดังกล่าวโดยทันที
พร้อมกันนี้ ได้มอบให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย กองทัพภาคต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยกันประเมินสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ด้วย และยอมรับว่าขณะนี้แม้จะมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ก็ยังมีบุคคลบางกลุ่มมีความพยายามที่จะเตรียมสร้างสถานการณ์หลังจากที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
"การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็มีส่วนช่วยทำให้สถานการณ์ไม่รุนแรง แต่พวกนี้ก็จ้องรออยู่ เมื่อยกเลิก พ.ร.ก.เมื่อไร ก็อาจมีการสร้างสถานการณ์ขึ้นมาอีก" รองนายกฯ ระบุ
ทั้งนี้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เริ่มประกาศใช้เมื่อวันที่ 7 เม.ย.53 มีอายุการประกาศใช้คราวละ 3 เดือน โดยจะครบกำหนดลงในวันที่ 7 ก.ค.นี้
รองนายกรัฐมนตรี คาดว่าภายใน 1-2 เดือนนี้จะสามารถสอบสวนเส้นทางการเงินของบุคคลทั้ง 83 คนที่มีส่วนเชื่อมโยงกับการให้การสนับสนุนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงได้แล้วเสร็จ โดยยืนยันว่าตรวจสอบในเรื่องนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น "สิ่งที่ทำเป็นการทำหน้าที่ตามปกติ ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร คงจะใช้เวลาเดือน เดือนครึ่ง ถึงสองเดือน คงจะสอบสวนเรียบร้อย เพราะต้องสอบสวนเส้นทางการเงินย้อนหลังไป 9 เดือน" นายสุเทพ กล่าว ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งสังเกตว่าการตรวจสอบเส้นทางการเงินดังกล่าว อาจเป็นช่องทางให้มีเจ้าหน้าที่ไปตบทรัพย์กับบุคคลที่ถูกห้ามทำธุรกรรมทางการเงินทั้ง 83 คนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า พร้อมจะตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้หากมีการร้องเรียนเข้ามา ซึ่งบุคคลที่มีข้อมูลสามารถร้องเรียนเข้ามาที่ตนหรือที่นายกรัฐมนตรีได้เช่นกัน