"กรณ์"แจงอนุกมธ.โต้ข้อหาปล่อยข่าว THCOM เหน็บ"สุรพงษ์"ไม่กล้าเชิญพท.ให้ข้อมูล

ข่าวการเมือง Tuesday June 22, 2010 16:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เข้าชี้แจงคณะอนุกรรมาธิการเศรษฐกิจจุลภาคในคณะกรรมาธิการการเงิน การคลังและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฏร ถึงกรณีที่มีข้อกล่าวหาการให้ข่าวว่ารัฐบาลมีแผนจะเจรจาซื้อหุ้นบมจ.ไทยคม(THCOM)จากเทมาเซคว่าก่อให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดหุ้น โต้กลับเป็นการใส่ร้ายคู่แข่งทางการเมือง พร้อมจวกอนุกมธ.ไม่กล้าเชิญผู้ที่ระบุว่ามีข้อมูลการปั่นหุ้นจากพรรคเพื่อไทยเข้ามาชี้แจงด้วย

ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะอนุ กมธ.ระบุว่า การให้ข่าวของนายกรณ์ จึงอยากถามว่าการให้ข่าวอย่างนี้เป็นการชี้นำหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นการพูดในที่สาธารณะ มีผลให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจว่ารัฐบาลกำลังจะซื้อหุ้นไทยคมของเทมาเซ็ก ประกอบกับในอดีตที่ผ่านมา รมว.คลังเคยเป็นทำงานในตลาดหุ้นมาก่อน ยืนยันว่าสาเหตุที่ต้องมีการถามเรื่องนี้ไม่ได้เป็น การทำลายความน่าเชื่อถือของใครแต่เป็นการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ

สำหรับกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้มายื่นญัตติถึงในกรณีดังกล่าวในวันนี้ เป็นคนละเรื่องกับการชี้แจงครั้งนี้ที่เป็นการพิจารณากรณีที่นายกรณ์ให้สัมภาษณ์จนทำให้ราคาหุ้นขึ้น แต่กรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยยื่นมานั้นเป็นกรณีของการปั่นหุ้นและเพิ่งยื่นเข้ามา ซึ่งยืนยันว่าจะบรรจุเรื่องนี้ไว้อย่างแน่นอน

นายกรณ์ กล่าวยืนยันว่า การเดินทางไปเจรจากับเทมาเส็กเป็นไปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเหตุที่มีนายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเดินทางไปด้วย เนื่องจากเห็นว่านายศิริโชคเป็นผู้ที่มีข้อมูลและมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดาวเทียม อีกทั้งการเดินทางในครั้งนี้ได้ออกค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง เพราะเป็นผลเกี่ยวกับความมั่นคง จึงไม่ต้องการให้เป็นที่รับรู้กันในวงกว้าง และมีความเข้าใจดีว่าหากเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ในวงกว้างจะมีผลต่อราคาหุ้น THCOM

ข้อมูลที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อ้างว่ามีนั้นถือเป็นหัวใจของทุกเรื่องไม่ควรแยกประเด็น เพราะข้อมูลของทั้ง 2 คนที่มีถึงขั้นมีการระบุเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมระบุว่า รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่วันนี้เป็นเพียงแค่การประชุมอนุกรรมาธิการฯ แทนที่จะเป็นคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยตัวแทนส.ส.หลายพรรค

"ถ้าท่านจริงใจต่อการพยายามหาข้อเท็จจริงในการซื้อหุ้นไทยคม ซึ่งดูเหมือนว่าโฆษกของพรรคการเมืองมีข้อมูลกล่าวหาว่าข้าราชการการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องระบุตัวย่อชื่อ เก่งถึงขนาดบอกได้ว่าทำกำไรได้เท่าไหร ถ้าท่านไม่ต้องการใช้เวทีเพื่อประโยชน์ทางการเมืองก็ขอให้คนที่อ้างว่ามีข้อมูลมาชี้แจงหรือไม่...คิดว่าการประชุมอนุกรรมาธิการครั้งนี้ไร้ค่าเพราะพวกท่านไม่กล้าเอาคนที่เปิดเผยข้อมูลมาชี้แจง" รมว.คลัง กล่าว

นายกรณ์ ยังระบุว่า ข้อสังเกตของคณะอนุ กมธ.ต่อการเคลื่อนไหวของหุ้น THCOM ที่ผิดปกติอันจะโยงไปสู่การนักการเมืองได้รับประโยชน์จากการปั่นหุ้นดังกล่าวนั้น คณะอนุ กมธ.ไม่สามารถนำเสนอข้อมูลเพื่อชี้ให้เห็นได้ว่าจะมีการกระทำไปในทางดังกล่าวจริงตามที่กล่าวหา ซึ่งถือว่าเป็นเพียงการทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองเท่านั้น

"ไม่สามารถนำเสนอข้อมูลอะไรที่พอชี้ให้เห็นได้เลยว่าการกล่าวอ้าง กล่าวหาจะเป็นเรื่องอื่นไปได้ นอกจากความพยายามทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมือง ผมรู้สึกผิดหวังในเพื่อนนักการเมือง และเห็นว่าประชาชนน่าจะได้นักการเมืองที่มีคุณภาพการทำงานที่มากกว่านี้” รมว.คลัง กล่าว

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และยังไม่มีข้อสรุปว่ามีการปั่นหุ้นจริง ดังนั้น การที่คณะอนุกมธ.ฯ เชื่อว่ามีการปั่นหุ้นเพื่อหวังทำกำไร อันเป็นการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นั้น ถือเป็นเพียงการสรุปอย่างมีการตั้งธงไว้อยู่แล้วเพื่อต้องการใส่ร้ายคู่แข่งทางการเมือง

ส่วนกรณีที่อนุกรรมาธิการฯ สอบถามจากทางตัวแทนของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าการที่ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเรื่องการเจรจาการซื้อหุ้นไทยคมเป็นการให้ข่าวชี้นำตลาดหุ้นหรือไม่ และเป็นความผิดตาม มาตรา 239 และ 240 ของพรบ.หลักทรัพย์ฯ หรือไม่นั้น นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต.ชี้แจงว่า ตามมาตรา 239 ระบุว่า ห้ามไม่ให้บริษัทหลักทรัพย์ และผู้ที่รับผิดชอบบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือผู้ที่มีส่วนได้เสียจากในหลักทรัพย์ เผยแพร่ข่าวอันมีผลทำให้หุ้นมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ซึ่งหากตีความดังนี้ รมว.คลัง ไม่ได้มีส่วนได้เสียตามมาตราดังกล่าว

ส่วนมาตรา 240 ระบุว่า ห้ามมิให้มีการแพร่ข่าวความเท็จให้เลื่องลือจนมีผลต่อราคาหุ้น จะมีการตีความว่าข่าวการเจรจาซื้อหุ้นไทยคมเป็นความเท็จหรือไม่ หากมีการเจรจาจริงแต่ยังไมได้ข้อสรุปก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นจึงไม่สามารถชี้ชัดในประเด็นดังกล่าวได้

ขณะที่ประเด็นกรณีที่ตลท.ไม่ขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อห้ามการซื้อขายหุ้น THCOM นั้น นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลท.ชี้แจงว่า การจะขึ้น SP จะทำก็ต่อเมื่อมีข้อมูลที่ไม่ชัดเจนอย่างมากเกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียน หรือมีสถานการณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี หากราคาหุ้นไทยคมมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเกินกว่า 30% ก็จะหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ส่วนมูลค่าการซื้อขายหุ้นที่มีหนาแน่นในช่วง 14-15 มิ.ย.นั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการเก็งกำไรตามกระแสข่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ