นายประชา ประสพดี ประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แถลงว่า จากการตรวจสอบและชี้แจงของเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้และกรมที่ดิน กรณีการถือครองที่ดินเขาแพงของนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พบว่ามีพิรุธในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท หจก.เรืองปัญญา คอนทรัคชั่น จำกัด ซึ่งได้สอบถามถึงที่มาของที่ดินดังกล่าวที่ได้มาเมื่อในปี พ.ศ.2537 แต่ขณะที่ หจก.ดังกล่าวได้จดทะเบียนก่อตั้งในปี 2539 ซึ่งเป็นข้อพิรุธที่ต้องตรวจสอบต่อไป โดยสัปดาห์หน้าจะเชิญรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าชี้แจงเพิ่มเติม
ด้านนายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ดินกว่า 10 ไร่ ของนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ บริเวณเขาแพง พบว่ามีข้อพิรุธที่มาของที่ดินไม่ชัดเจน โดยนายนิพนธ์ระบุผ่านโทรศัพท์ว่าหากทางกมธ.กฎหมายฯตรวจสอบแล้วพบว่ามีความไม่ชอบก็พร้อมจะคืนที่ดินให้กับหลวง จากการตรวจสอบพบว่า การออก สค.1 เป็นการออกโฉนดบิน โดยพื้นที่จริงอยู่ในตำบลแม่น้ำแต่กลับออกสค.1 ในตำบลอ่างทอง ซึ่งมีระยะทางที่ห่างกันมากและเป็นไปไม่ได้ที่จะออกสค.1ในพื้นที่ห่างกัน อีกทั้งยังพบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นภูเขา มีความลาดชันเกิน 35% ตามกฎหมายระบุชัดว่าต้องเป็นที่ดินของกรมป่าไม้
ทั้งนี้ วันที่ 23 มิ.ย. เวลา 13.00 น.จะเดินทางยื่นหนังสือให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ป.ป.ช.) เร่งรัดตั้งกรรมการตรวจสอบให้เร็วที่สุด
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ล่าสุดนายนิพนธ์ประสานผ่านตนแล้วว่าเจ้าหน้าที่ที่ดินจะนำเอกสารสค.1 ซึ่งเป็นหลักฐานการซื้อขายที่ดินของนายนิพนธ์มาแสดง แต่ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าว อีกทั้งนายนิพนธ์ยืนยันชัดเจนว่าหากเรื่องนี้ยังคลุมเครือไม่สามารถพิสูจน์ได้นายนิพนธ์ก็พร้อมจะคืนที่ดินดังกล่าวให้กับแผ่นดินเพราะค่าที่ดินจำนวน21ล้านที่นายนิพนธ์ ซื้อมาหากแลกกับเกียรติยศ ชื่อเสียงที่สะสมมานานไม่คุ้มค่ากัน
"นายนิพนธ์ ควรแสดงสปิริตคืนที่ดินดังกล่าวเพราะหากปล่อยนานไป จะกลายเป็นปัญหาซ้ำรอยกับคดีสปก.4-01 ภาคสองเป็นแน่" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ กมธ.กฎหมายฯ ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่าที่ดินที่นายแทนและนายนิพนธ์ ครอบครองอยู่ได้มาจากการบริจาคที่ดินของนายอากร ฮุนตระกูล และนายธนกร ฮุนตระกูล ลูกชาย ที่ได้บริจาคให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อปี 2549 จำนวน 4,870 ไร่ เพื่อให้เป็นที่ต้นน้ำลำธารและเป็นป่าชุมชน ซึ่งไม่สามารถออกสค. 1 หรือออกโฉนดได้ แต่ภายหลังกลับมีการแยกที่ดินมาออกสค.1 ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค