นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้ความผิดทางอาญาเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN) เป็นการกระทำหรือละเว้นกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ตามมาตรา 246 และมาตรา 247 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547
เนื่องจากเป็นคดีที่สืบเนื่องจากการที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาไว้ และทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้วิเคราะห์เห็นว่า การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และภริยา มีความผิดเกี่ยวกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน จะสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้ เพราะการดำเนินสอบสวนไม่ยุ่งยาก และทาง ก.ล.ต.ได้สอบสวนมาค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังมีมติรับความผิดทางอาญา 5 เรื่องเป็นคดีพิเศษ ได้แก่ 1.กรณีขบวนการค้ามนุษย์ในรูปแบบเรือประมงที่ จ.ตรัง 2.กรณีขบวนการสวมบัตรทำบัตรประจำตัวประชาชนโดยมิชอบที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ของกลุ่มคนต่างด้าว 3.การลักลอบขุดแร่เหล็กบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเขาแก้ว และป่าดงปากชม อ.เชียงคาน จ.เลย 4.กรณีนายทุนบุกรุกป่าชายเลนยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่หมู่ 6 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ และ 5.กรณีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดทางภาคเหนือ