ศอฉ.เผยหน่วยข่าวยันเสื้อแดงหลายพื้นที่เตรียมป่วน หากเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ข่าวการเมือง Thursday June 24, 2010 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลด้านการข่าวของ ศอฉ.ทุกหน่วยงานรายงานตรงกันว่ามีความพยายามเคลื่อนไหวอย่างลับๆ ของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่พยายามจะสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล และในต่างจังหวัดทั้งภาคเหนือและอีสาน ซึ่งเมื่อพื้นที่ใดยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็จะมีการเริ่มปฏิบัติการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่

ดังนั้นจากข้อมูลข่าวดังกล่าว ทำให้การปฏิบัติงานของทหารยังคงปฏิบัติงานช่วยเหลือตำรวจอยู่ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่กรุงเทพฯ จัดให้สารวัตรทหาร 3 เหล่าทัพ เพื่อแสดงกำลังในจุดต่างๆที่ล่อแหลม ทั้งจัดกำลังสายตรวจ ตั้งจุดตรวจในพื้นที่ล่อแหลมควบคู่กับการตั้งจุดตรวจร่วมกับตำรวจตลอด 24 ชั่วโมง และจัดกำลังกองร้อยเคลื่อนที่เร็ว หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในพื้นที่ กทม.อีก 3 กองร้อย ประจำอยู่ในกองบัญชาการกองทัพบก และกองทัพภาคที่ 1

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดและภูมิภาคกองทัพภาคที่ 2 และ 3 ยึดแนวทางเดียวกัน คือ มีกองร้อยรักษาความสงบประจำอยู่แต่ละจังหวัดๆละ 2-3 กองร้อย แล้วแต่สถานการณ์ในพื้นที่ นอกจากนี้จะส่งทหารและฝ่ายต่างๆ ในสายงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ลงไปพบปะชี้แจงทำความเข้าใจประชาชนถึงสถานการณ์ที่ผ่านมา เพราะมั่นใจว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคยังมีบางส่วนได้ข้อมูลคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ยังมีเวลาที่จะพิจารณาเรื่องการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ ซึ่งคาดว่าต้นสัปดาห์หน้าจะส่งข้อมูลให้รัฐบาลก่อนที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 6 ก.ค.นี้ แต่แนวโน้มคาดว่าน่าจะคงการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก แต่อาจไม่ครบทั้ง 24 จังหวัด

แหล่งข่าวกล่าวว่า จากการรายงานของหน่วยข่าวเรื่องความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่เตรียมก่อความวุ่นวายในบางพื้นที่นั้นศอฉ. สั่งให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจสกัด และการอารักขาสถานที่สำคัญ เช่น ทำเนียบรัฐบาล, บ้านพักนายกรัฐมนตรี, รัฐสภา, ห้างสรรพสินค้าเครือเซ็นทรัล, สถานีโทรทัศน์ต่างๆ รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ