นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงถึงนโยบายการหาเสียงเลือกตั้ง เขต 6 กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ขณะนี้พรรคได้จัดเตรียมชุดนโยบายที่จะเน้นในเรื่องของการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาของประชาชน ใน 2 เรื่องเป็นหลัก 1.การกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจ 2.การแก้ไขปัญหาความเลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม และสร้างความเป็นธรรมให้สังคม
ทั้งนี้ ในส่วนเรื่องเศรษฐกิจนั้นจะเน้นถึงความสำเร็จในการกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้มีคำยืนยันโดยธนาคารโลกว่าเศรษบกิจไทยปีนี้จะมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 6.1% สูงกว่าที่ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ได้เคยประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ตรงกับเป้าหมายที่นายกฯได้กล่าวแถลงไว้เป็นสัญญาประชาคมว่าจะทำเศรษฐกิจปีนี้ให้โต 6%ให้ได้
ส่วนนโยบายสร้างความเป็นธรรม จะมีชุดนโยบาย 5 เรื่องที่รัฐบาลถือว่าเป็นภาระกิจสำคัญ และเป็นสัญญาประชาคมในครึ่งปีหลังของปี 53 หลังจากทำงานมาครบ 1 ปี 6 เดือนจะเป็นนโยบายชุดนโยบายที่จัดทำระหว่าง 1 ปี 7 เดือนถึงครบ 2 ปี กล่าวคือ
1.การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำของภาคแรงงาน หลังจากที่การปรับเพิ่มอัตราเงินเดือนในส่วนของข้าราชการ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้แรงงานลืมตาอ้าปากกลับมามีระดับรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย หลังจากประสบปัญหารายได้ลดลงจากวิกฤติทางการเมือง โดยกระทรวงการคลังจะหารือกับกระทรวงแรงงาน เชื่อว่าจะดำเนินการได้โดยไม่กระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ
2. การเดินหน้าใช้ภาษีทรัพย์สินและภาษีที่ดินฯ เพื่อสร้างความเป็นธรรม ลดความเลื่อมล้ำในการถือครองทรัพย์สินที่ดินทั่วประเทศ ถือว่าเป็นมาตรการภาษีที่ก้าวหน้าที่สุด ตั้งแต่มีการจัดเก็บภาษีในช่วงที่ 50 ปีที่ผ่านมา
3.นโยบายโฉนดชุมชน ซึ่งจะมีการตัดสินใจคืนที่ที่เป็นของรัฐให้กับชุมชนเป็นเจ้าของ โดยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน และเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้เป็นพื้นที่ทำกินได้ ดำเนินการในส่วนนี้ 30 พื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำขึ้นในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์
4. การจัดธนาคารที่ดิน จากการที่รัฐบาลจะจัดงบประมาณ 25,000 ล้านบาทซื้อที่ดินที่มีการครอบครองทั่วประเทศ และมีการกันสัดส่วนการจัดเก็บภาษี 2% ของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาธนาคารที่ดินให้ประชาชนเข้าถึงที่ทำกิน
5. การจัดตั้งกองทุนออมทรัพย์ และทำระบบสวัสดิการชุมนุม เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศมีหลักประกันความมั่นคงของระดับครัวเรือนได้ ทั้งในกรณีที่มีการเจ็บป่วย เสียชีวิต ทุพพลภาพจากการทำงาน และจะมีการสงเคราะห์บุตร รวมถึงมีบำนาญในยามชราภาพ โดยจะขยายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไปสู่ระบบบำนาญประชาชน
โฆษก ปชป. กล่าวต่อว่า ทั้ง 5 นโยบายจะเป็นนโยบายที่เดินคู่ขนานกับนโยบายเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดความเลื่อมล้ำในสังคม โดยทั้งหมดนี้รัฐบาลและพรรคก็จะขับเคลื่อนชุดนโยบายที่ต่อยอดในระดับชาติ เช่น นโยบายประกันรายได้ นโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และสานต่อนโยบายเรียนฟรี 15 ปี รวมทั้งนโยบายอื่นๆที่ทำให้รัฐบาลชุดนี้สามารถแก้ปัญหาของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการทางการเมือง