สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อเหตุการณ์ระเบิดข้างที่ทำการพรรคภูมิใจไทยถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจและท้าทายต่อกฎหมายบ้านเมือง เพราะช่วงเวลาที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะทวีความรุนแรงมากขึ้นและยังมีความจำเป็นต้องคงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ก่อน
โดยประชาชนส่วนใหญ่ 42.11% เห็นว่าควรให้มีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ขณะที่ประชาชนอีก 39.47% เห็นว่าไม่ควรมีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์และสังคมโดยรวม
และหากรัฐบาลยังคงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ ประชาชน 44.73% เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 6 แต่ประชาชนอีก 38.47% เชื่อว่ามีผลกระทบต่อการลงพื้นที่หาเสียง
ขณะที่ความเห็นเกี่ยวกับแผนการสร้างความปรองดองนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ 56.26% มองว่าอาจถูกหยิบยกไปเป็นประเด็นโจมตีกัน ก่อให้เกิดความขัดแย้งและสร้างความปรองดองยาก
อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ 34.29% มองว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเป็นการกระทำที่อุกอาจ ท้าทายกฎหมายบ้านเมือง และประชาชนส่วนใหญ่ 37.61% เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้สถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรงมากขึ้น เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องที่มีมูลเหตุเชื่อมโยงกับการเมือง แต่เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริงมาดำเนินคดีได้เหมือนหลายคดีก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้น 1,266 คน ระหว่างวันที่ 24-26 มิ.ย.ที่ผ่านม