เยอรมนีเตรียมเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในบ่ายวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นบททดสอบใหม่ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
โดยสภาสมาพันธรัฐ (Federal Assembly) ซึ่งประกอบด้วยตัวแทน 1,244 คนจากทั้งรัฐสภาและรัฐต่างๆ จะเลือกประธานาธิบดีคนใหม่จาก 3 คนที่ได้รับการเสนอชื่อโดยรัฐบาลผสม พรรคฝ่ายค้าน และพรรคเลฟท์
คริสเตียน วูล์ฟ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ว่าการรัฐโลเวอร์แซกโซนี และได้รับการเสนอชื่อโดยนายกรัฐมนตรีอังเกล่า แมร์เคล เป็นผู้ที่มีโอกาสนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีคนใหม่มากที่สุด เนื่องจากรัฐบาลผสมพรรคซีดียู-เอฟดีพีของนางแมร์เคลครอง 644 เสียงในสภา และต้องการอีกเพียง 21 เสียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากพรรคเอฟดีพีบางส่วนให้การสนับสนุนคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Joachim Gauck นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยพรรคฝ่ายค้าน
โดยปกติแล้วตำแหน่งประธานาธิบดีเยอรมนีเป็นเพียงตำแหน่งตามพิธีรีตองและไม่ค่อยมีความสำคัญมากนัก ถึงกระนั้นการเลือกประธานาธิบดีครั้งนี้ก็ถือเป็นบททดสอบอนาคตของรัฐบาลนางแมร์เคล ซึ่งในตอนนี้ได้อ่อนกำลังลงหลังประสบความล้มเหลวในการเลือกตั้งท้องถิ่น นอกจากนั้นยังถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการรับมือกับวิกฤตหนี้สินในยูโรโซน
อดีตประธานาธิบดีโฮร์สต์ โคห์เลอร์ ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เขากล่าวในระหว่างการเยือนอัฟกานิสถานว่า การส่งทหารออกปฏิบัติหน้าที่ในอัฟกานิสถานเป็นสิ่งที่สมควร เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ด้านการค้าของเยอรมนี ซึ่งความเห็นดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ทั้งนี้ การเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ต้องเสร็จสิ้นในการลงคะแนน 3 รอบ โดยผู้ชนะต้องได้เสียงข้างมากแบบสมบูรณ์ (absolute majority) คือเกินครึ่งหนึ่งในรอบแรกและรอบที่สอง ส่วนรอบที่สามแค่ได้เสียงข้างมากโดยสัมพัทธ์ (relative majority) ก็จะได้เป็นประธานาธิบดี สำนักข่าวซินหัวรายงาน